รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 11-17 ม.ค. 2564)
อันดับ 1 : ธนาธรประดิษฐ์วาทกรรม! จั่วหัว "วัคซีนพระราชทาน" บิดเบือน-พาดพิงสถาบัน รัฐจัดให้มาตรา 112
หลังศึกเลือกตั้ง อบจ. แพ้ยับเยินจนเงียบหายไปพักใหญ่ ปรากฎว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า เฟซบุ๊กไลฟ์จั่วหัว "วัคซีนพระราชทาน : ใครได้ใครเสีย" เมื่อกลางดึกวันที่ 18 ม.ค. กล่าวหารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำเรื่องวัคซีนและการแพร่ระบาดของโควิด-19 หวังผลทางการเมือง เอาใจสถาบัน เอาเงินภาษีประชาชนไปให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่เป็นของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ว่าจ้างให้ผลิตวัคซีน ทำคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศเสียโอกาสได้ฉีดวัคซีนช้ากว่าประเทศอื่น แถมจงใจชี้ให้เห็นว่าสยามไบโอไซเอนซ์ขาดทุนมาตลอด แต่เมื่อรัฐบาลจ้างให้ผลิตวัคซีนจะทำให้มีผลกำไร
ความจริงก็คือ รัฐบาลจองซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกา สูตรมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดของอังกฤษ มีข้อตกลงถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ประเทศไทย ซึ่งสยามไบโอไซเอนซ์มีความพร้อมมากที่สุด เมื่อรัฐบาลให้งบสนับสนุน ผลิตวัคซีนได้ก็จะคืนวัคซีนให้เท่ากับมูลค่าที่สนับสนุน บริษัทนี้ก่อตั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ไม่คิดหาผลกำไรมาแต่ต้นตามแนวพระราชดำริ ขาดทุนคือกำไร เรื่องนี้ทำให้นายธนาธรถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทั้งจากกระทรวงดีอีเอสและสำนักนายกรัฐมนตรี
อันดับ 2 : กกกอกไฟต์! ลุงพลทุบหลังนักข่าวอมรินทร์ ป่าไม้แจ้งจับครองไม้หวงห้าม โถ! คดีเด็กหญิงชมพู่ไม่คืบ
จากชาวบ้านหน้าตาซื่อๆ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยการเสียชีวิตของเด็กหญิงชมพู่วัย 3 ขวบ กลายมาเป็นซุป'ตาร์จากการนำเสนอข่าวของสื่อ หลังจากมีชื่อเสียงเงินทอง ยูทูปเบอร์ล้อมหน้าล้อมหลัง มีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่ขอสัมภาษณ์ 2 เดือน ในที่สุดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เกิดบันดาลโทสะแย่งไมโครโฟนช่องอมรินทร์ทีวี ก่อนใช้มือทุบหลังและทำท่าจะบีบคอ นายนภัส ปราณีตพลกรัง หรือฟ้า ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ระหว่างที่ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร ชี้แจงข้อร้องเรียนเรื่องท่อนไม้ที่ลุงพลอ้างว่าเป็นไม้ตะเคียน นำมาตั้งศาลให้ชาวบ้านกราบไหว้บูชา เหตุเกิดที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
นายนภัสเข้าแจ้งความกับ สภ.กกตูม ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะที่ต้นสังกัดเปลี่ยนผู้สื่อข่าวคนใหม่ลงพื้นที่แทน ส่วนลุงพลตั้งโต๊ะแถลงขอโทษ อ้างว่าควบคุมอารมณ์ไม่ดียืนยันว่าไม่ปิดกั้นสื่อ สำหรับผลการตรวจสอบท่อนไม้พบว่าไม่ใช่ไม้ตะเคียน เป็นไม้มะค่าแต้ ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาครอบครองไม้หวงห้าม ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แจ้งความเอาผิดลุงพลบุกรุกป่าสงวนดงภูพาน ก่อสร้างรูปปั้นพญานาค ส่วนความคืบหน้าคดีเด็กหญิงชมพู่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ระบุว่า ยังไม่สามารถออกหมายจับใครได้ ได้แต่ฝากบอกถึงผู้ต้องหาว่าบาปกรรมมีจริง
อันดับ 3 : อย.ฟันฉับกาละแมร์ โฆษณาอาหารเสริมเกินจริง ยังมั่นหน้ามั่นใจรีวิวตามความรู้สึก เมินถูกดำเนินคดี
หลังถูกสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เลิกจ้างเพราะวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปีที่แล้ว ผ่านไปไม่กี่เดือนพิธีกรสาว "กาละแมร์- พัชรศรี เบญจมาศ" เจอสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 18 ม.ค. หลังทำคลิปรีวิวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อหนึ่ง อ้างว่ากินแล้วกรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาที่เคยหนังตาตกก็เป็นตา 2 ชั้น รอยขมวดคิ้วหาย ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป แล้วถูกแชร์ผ่านโซเชียลฯ กระหน่ำ ยืนยันว่าไม่มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวไหนเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือการทำงานของร่างกายได้ตามที่กล่าวอ้าง สั่งดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว และก่อนหน้านี้ก็ดำเนินคดีกับกาละแมร์ไปแล้ว 7 คดี
ด้านเจ้าตัวเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ยอมรับว่าเครียดแต่ได้กำลังใจ อ้างว่าที่พูดถึงสรรพคุณต่างๆ พูดตามความรู้สึกและสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ที่ผิดคือไม่ได้พูดตามรายละเอียดที่ยื่นขอใบอนุญาตโฆษณาอาหาร ผลิตภัณฑ์ของตนมีเครื่องหมาย อย. และอ้างว่าถ้าไม่ทำต่อกลัวคนเสียประโยชน์ ถ้าไม่ดีจริงไม่เอาของไม่ดีเข้าร่างกายตัวเอง และทุกการเปลี่ยนแปลงก็เอามาโชว์ให้เห็น และแม้ตำรวจจะออกหมายเรียกในวันที่ 28 ม.ค. แต่ยังติดงาน ขณะที่ชาวเน็ตยังขุดคลิปกาละแมร์รีวิวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คู่กับติช่า-กันติชม ชุมมะ อ้างว่ากินแล้วไม่ติดโควิด-19 ทำเอาคนที่ฟังถึงกับอึ้ง เพราะน่าจะเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง
อันดับ 4 : ลามถึงคนบันเทิง "ดีเจมะตูม" ติดโควิด-19 ด้าน อย. ขึ้นทะเบียนวัคซีน แอสตราเซเนกาเป็นรายแรก
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่น่าสนใจ เริ่มจากดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนจะเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียด ตั้งแต่ 7 ม.ค. ถึงปัจจุบัน ทำเอาคนบันเทิง เช่น กลุ่มดีเจค่ายเอไทม์ เครือจีเอ็ม-เอ็มแกรมมี่ ดาราที่สัมผัสใกล้ชิดหลายคน ทยอยไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 หนึ่งในนั้นคือนางเอกสาว แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ที่ต้องตรวจโควิดและกักตัวเป็นรอบที่ 3 ในชีวิต หลังไปร่วมงานกับดีเจมะตูม ขณะที่สถานที่ทั้งโรงแรมบันยันทรี ร้านค้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ร้านย่างเนยรัชดา และฟู้ดแลนด์ สาขาเดอะสตรีท ปิดให้บริการเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
ด้านยอดผู้ติดเชื้อนับตั้งแต่วันที่ 16-22 ม.ค. รวม 1,285 ราย เสียชีวิต 2 ราย รักษาหายแล้ว 1,745 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 13,014 ราย เสียชีวิต 71 ราย (นับเฉพาะระลอกใหม่ 8,867 ราย เสียชีวิต 11 ราย) ขณะที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ลงนามขึ้นทะเบียนวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในอิตาลีเมื่อวันที่ 20 ม.ค. จะมาถึงไทยเบื้องต้น 50,000 โดส เดือน ก.พ. ส่วนกรุงเทพมหานครผ่อนปรน 13 กิจการและกิจกรรม หนึ่งในนั้นคือฟิตเนส สปา โบว์ลิ่ง ยกเว้นผับ บาร์ อาบอบนวด อีกด้านที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจหาเชื้อตลาดกลางกุ้งครั้งสุดท้าย เตรียมบิ๊กคลีนนิ่งวันที่ 25 ม.ค. ก่อนเปิดค้าขายด้วยมาตรการที่เคร่งครัด
อันดับ 5 : เราชนะไม่โอนเงินสด รัฐทุ่ม 2 แสนล้านจ่ายเยียวยา 3,500 สองเดือน เจอดรามาไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ยังไง
มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่มาแล้ว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ม.ค. เห็นชอบโครงการเราชนะ สนับสนุนวงเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพจำนวนไม่เกิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน อนุมัตินำเงินกู้ตาม พ.ร.บ.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มาใช้ในวงเงิน 210,200 ล้านบาท ครอบคลุม 31.1 ล้านคน ได้แก่ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้วงเงินรายสัปดาห์ละ 675-700 บาท ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" และเปิดรับลงทะเบียนออนไลน์ทาง www.เราชนะ.com จะได้รับสัปดาห์ละ 1,000 บาท โดยสามารถสะสมเพื่อใช้จ่ายได้ถึง 31 พ.ค. 2564
ที่เกิดเรื่องดรามาก็คือ การจ่ายเงินเยียวยาครั้งนี้ไม่ได้ให้เป็นเงินโอนเข้าบัญชี เพื่อถอนออกมาเป็นเงินสดเหมือนคราวก่อน แต่ให้เป็นวงเงินในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ให้เหตุผลว่าไม่อยากให้คนสัมผัสเงิน เพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 แนะว่าต้องจัดหาโทรศัพท์มือถือ เดี๋ยวนี้ราคาไม่แพง ถ้าไม่มีเงินก็ให้ใช้สิทธิ์เราชนะซื้อโทรศัพท์ได้ ทำเอาสังคมด่ากันเปิง สุดท้ายรัฐมนตรีรายนี้ตอบไว้ก่อนว่าประสานงานกับธนาคารของรัฐที่มีสาขาทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มคนดังกล่าวสามารถลงทะเบียนได้แล้ว ซึ่งทางธนาคารต่างๆ ยืนยันว่าสามารถทำได้
อันดับ 6 : อาการสองบุคลิก หนุ่มใหญ่คลั่งเผาบ้านฆ่าแม่ตัวเอง ก่อนถูกวิสามัญ ญาติโวยเคยแจ้งตำรวจไม่เคยมา
เรื่องสลดใจหนุ่มใหญ่ฆ่าแม่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 19 ม.ค. เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเอง ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยบางพรม 54 เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ตำรวจ สน.บางเสาธงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันในบ้าน และมีชายรายหนึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ถือมีดพร้ายาว 1 ฟุตครึ่งกวัดแกว่งไปมา ทราบชื่อคือนายนนทชัย หรือโอ๊ต กรานเคารพ อายุ 35 ปี เมื่อเห็นตำรวจและหน่วยกู้ภัยมาถึง ได้ลากศพนางสุรางค์รัตน์ จ้อยเจือ อายุ 62 ปี มารดาตัวเองมาวางไว้ แล้วใช้มีดพร้าในมือจ้วงแทงนับไม่ถ้วนอย่างบ้าคลั่ง เมื่อตำรวจช่วยไล่ต้อนนายนนทชัยเพื่อเข้าไปดับเพลิงในบ้าน ปรากฎว่าเจ้าตัวหลบหนีทะลุป่ากล้วยหลังบ้าน
จากนั้นวิ่งออกมาบนถนนบางพรม พบตำรวจ สน.บางเสาธงยืนอยู่คอสะพานข้ามคลองวัดใหม่ ตำรวจพยายามเจรจาให้วางมีดลง ทีแรกเหมือนทำทีว่าจะยอม แต่พอจะเข้าไปควบคุมตัวกลับหยิบมีดพุ่งใส่ตำรวจ และพยายามพุ่งเข้าทำร้าย ตำรวจต้องยิงป้องกันตัวจนนายนนทชัยเสียชีวิต สอบสวนทราบว่าเคยติดคุกคดีชิงทรัพย์ปี 2548 พ้นโทษปี 2559 ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง อาศัยอยู่กับแม่ กระทั่งปี 2563 ถูกรถชนมีอาการทางสมอง กลายเป็นคนสองบุคลิก เมื่อเสพยาก็คลุ้มคลั่งทำร้ายแม่และชาวบ้านบ่อยครั้ง ส่วนกองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งกรรมการสอบหลังญาติเคยระบุว่าแจ้งเหตุ สน.บางเสาธงหลายครั้งไม่เคยมา
อันดับ 7 : การ์ดเยลเลี้ยงแกะ! กุเรื่องถูก กอ.รมน.อุ้ม ที่แท้เดินเข้าเซเว่นฯ พักหอคนเดียว หนำซ้ำมีคดีหนีทหารอีก
เรื่องวุ่นๆ ของผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร 2563 เกิดขึ้นหลังการชุมนุมที่หน้าสามย่านมิตรทาวน์เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ปรากฎว่านายมงคล สันติเมธากุล หรือเยล หนึ่งในการ์ดผู้ชุมนุมโพสต์เฟซบุ๊กระบุคำว่า "ช่วยด้วย" ก่อนจะมีบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ใช้ไลน์ไปทักขู่ จากนั้นบ่ายวันที่ 17 ม.ค. เจ้าตัวระบุว่าปล่อยตัวแล้ว นายพัลลภ รุ่งมิตรจรัสแสง ทนายความจึงพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าตัวเล่าเป็นฉากๆ ว่าระหว่างกลับบ้าน ลงรถไฟฟ้าสถานีแพรกษา มีรถตู้สีเทาขับวนมาปากซอย มีชายฉกรรจ์ 3 คนใช้ถุงผ้าคลุมศีรษะพาขึ้นรถ ยึดโทรศัพท์ บังคับให้ปล่อยรหัส ข่มขู่ให้เลิกเข้าร่วมชุมนุม
ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่านายมงคลลงรถไฟฟ้าสถานีแพรกษาตอน 21.39 น. ไปทางถนนแพรกษา จากนั้นเวลา 23.04 น. นายมงคลซื้อของร้านสะดวกซื้อปากซอยเทศบาลบางปู 30 ก่อนเดินเท้า 2 กิโลเมตร พักที่ชั้น 8 อิงธารเพลส ซอยเทศบาลบางปู 47 คนเดียว ตั้งแต่ตีสองถึงเกือบเที่ยงวัน พยายามนำเสื้อคลุมปิดบังใบหน้าตอนออกมา ไม่มีรถตู้หรือกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้ม อนุมานได้ว่าไม่ได้ถูกอุ้มจริง หนำซ้ำพบว่านายมงคลหนีทหารเมื่อเดือน ธ.ค. 2562 ระหว่างเป็นทหารเกณฑ์ผลัด 1/61 ที่ศูนย์การทหารราบ ศาลทหารอนุมัติหมายจับแล้ว ส่วนทีมการ์ดราษฎรเรียกร้องให้เจ้าตัวรับผิดชอบที่กุเรื่องขึ้นมาเอง