xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : เบิกเนตรสินบนฉาว 20 ล้านน้องธนาธร | ปีใหม่ 64 เคานต์ดาวน์หรือล็อกดาวน์ | ลุงตู่อยู่ต่อ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค. 2563)


อันดับ 1 : เบิกเนตรสินบนฉาว "สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ" น้องชายธนาธร จ่ายใต้โต๊ะ 20 ล้าน หวังฮุบที่ดินทรัพย์สินกษัตริย์

เรื่องครึกโครมตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความว่า รัชกาลที่ ๑๐ ทรงงานแบบเก็บเงียบ กับปัญหาที่ฝังรากลึก แต่ถูกใส่ความว่าไม่ทำอะไรเลย ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า โจมตีว่าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ไม่ชอบมาพากล นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายนายธนาธร ก็แอบยัดเงินใต้โต๊ะ 20 ล้านบาทให้กับคนในของสำนักทรัพย์สินฯ เพื่อหวังจะฮุบสัมปทานที่ดินทำเลทองย่านชิดลม กลับกลายเป็นว่านายสกุลธรโดนหลอกอีกที แต่ยังคงอยู่ในสังคมและทำธุรกิจต่อไป ทั้งๆ ที่ร่วมกันคอรัปชั่น

ขณะที่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ลงวันที่ 27 พ.ย. 2562 ระบุว่า ระหว่างกลางเดือน มี.ค.-พ.ย. 2560 นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช นายหน้า ร่วมกันนำข้อมูลไปแจ้งต่อนายสกุลธรว่าที่ดินองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลมกำลังจะหมดสัญญา ก่อนปลอมแปลงเอกสารให้นายสกุลธรหลงเชื่อ จ่ายเงิน 3 งวด รวม 20 ล้านบาท เพื่อตอบแทนและส่วนหนึ่งไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ หวังจูงใจให้จัดสรรที่ดินเช่าระยะยาว โดยไม่ผ่านการประมูล ทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯ เสียประโยชน์และเกิดความเสียหาย

อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม คลิก 


อันดับ 2 : ปีใหม่ 64 เคานต์ดาวน์หรือล็อกดาวน์? 38 คนไทยลอบเข้าเมืองไร้สำนึก โควิด-19 โผล่ถ้วนหน้า

หลังจากที่พบผู้ป่วยโควิด-19 มาจากผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จากการทำงานในสถานบันเทิงและบ่อนคาสิโนฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อหลีกเลี่ยงถูกกักตัว 14 วัน มาตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ปรากฎว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากท่าขี้เหล็กเพิ่มขึ้น ณ วันที่ 7 ธ.ค. รวม 38 ราย (ติดเชื้อในประเทศ 2 ราย) กลายเป็นที่วิจารณ์ว่าฝ่าฝืนกฎหมาย ทำลายประเทศและการท่องเที่ยวใกล้เทศกาลปีใหม่ 2564 โดยพบว่าจ้างกลุ่มผู้รับจ้างช่วยเหลือข้ามแม่น้ำสายคนละ 6,500 บาท เมื่อเข้าประเทศแล้วกลับเที่ยวสถานบันเทิง เทศกาลดนตรี โดยสารเครื่องบินปะปนกับผู้คนทั่วไป ก่อนแสดงอาการออกมา

นอกจากนี้ ในการสอบสวนโรคพบว่ามีการซักซ้อม เตี๊ยมข้อมูลกันมา จึงให้ประวัติเหมือนกัน ต้องอาศัยหลักฐานอื่น เช่น ซิมมือถือ ส่วนโลกออนไลน์พบกลุ่มสาวไทยลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ข้ามแม่น้ำฝั่งเมียนมาเข้าไทย ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ทางการตามจับกุมได้ 4 คน สอบสวนทราบว่าได้จ้างชาวเมียนมาพาข้ามแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก คนละ 5,500 บาท อีกด้านหนึ่งพบชายวัย 70 ปี ชาว ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก มีเชื้อโควิด-19 โกหกหมอว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง ก่อนพบความจริงว่าเคยลอบข้ามไปฝั่งเมียนมาเพื่อหาภรรยา ต้องกักตัวแพทย์ พยาบาล กู้ภัย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 คน


อันดับ 3 : ลุงตู่อยู่ต่อ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ผิดปมบ้านพักค่ายทหาร ม็อบปลดแอกเจอการ์ดทะเลาะกัน

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ความเป็นรัฐมนตรีไม่สิ้นสุดลง กรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 55 คน ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยอ้างว่าใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์เป็นที่พักอาศัย มีลักษณะขัดกันแห่งผลประโยชน์ โดยศาลเห็นว่าเป็นบ้านพักรับรองตามระเบียบกองทัพบก กำหนดให้อดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบกซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กับกองทัพบกและประเทศชาติ และเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมีสิทธิเข้าพักอาศัย ประกอบกับเป็นธุรกิจการงานปกติโดยถือเป็นสิทธิของบุคคล จึงมีมติเอกฉันท์ดังกล่าว

ด้านการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร 2563 ใช้โซเชียลนัดรวมตัวตามสถานที่ต่างๆ พบความขัดแย้งในกลุ่มการ์ดที่มีกว่า 10 กลุ่ม แต่มีลักษณะต่างคนต่างทำ เกิดการกระทบกระทั่งบ่อยครั้ง เช่น นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ดมวลชนอาสาราษฎร (WEVO) ถอนตัวหลังการ์ดปะทะกันเองเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ขณะที่การชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. การ์ดเสื้อแดงถีบรถชาวบ้าน นายปกรณ์ พรชีวางกูร นายทุนผู้ชุมนุมประกาศว่าเป็นกลุ่มการ์ดนอกระบบ ทำให้นายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ถามกลับทำนองว่าการ์ดเสื้อแดงเลวมากหรือ


อันดับ 4 : ปักษ์ใต้ร่ำไห้น้ำป่าคร่าชีวิต เทือกเขาหลวงอุ้มสายธารไม่อยู่ นครศรีธรรมราชจม คีรีวงสะพานยังขาด

อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ทำให้พื้นที่ภาคใต้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ณ วันที่ 7 ธ.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า อุทกภัยภาคใต้ครั้งนี้ได้รับผลกระทบ 11 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ชุมพร กระบี่ สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 24 ราย ได้แก่ นครศรีธรรมราช 19 ราย สุราษฎร์ธานี 2 ราย ตรัง 1 ราย สงขลา 2 ราย

จังหวัดที่สถานการณ์น้ำท่วมหนักที่สุด คือ นครศรีธรรมราช มวลน้ำจากเทือกเขาหลวง ต้นน้ำของแม่น้ำ คลอง และลำธารหลายสาย ไหลบ่าเข้าเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 30 ปี ทางเข้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ถูกน้ำป่าจากต้นน้ำตกพรหมโลก น้ำตกอ้ายเขียว ใน อ.พรหมคีรี หลากบ่าเข้าท่วมรอบสนามบิน หมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยม มวลน้ำก้อนใหญ่จากต้นน้ำเทือกเขาหลวง ไหลหลากผ่านธารน้ำท่าดี ทำให้สะพานวังไทร ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีตบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ตัวสะพานขาดชำรุดยาว 40 เมตร ไม่สามารถสัญจรไปมาได้


อันดับ 5 : สลดหนุ่มคลั่งฆ่าปาดคอ 2 ศพ เจ็บอีก 5 รายกลางเมืองอุดรธานี ไม่พบป่วยจิตแต่ญาติเชื่อคุณไสยเข้าตัว

เหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดไล่แทงชาวบ้านกลางเมืองครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 5 ธ.ค. นายอิทธิพล อิ่มผึ่ง หรือแจ็ค อายุ 31 ปี ชาว ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ขี่จักรยานยนต์มาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง เทศบาลนครอุดรธานี ขณะขี่รถกลับเกิดอาการคลั่ง ใช้มีดแหลมไล่แทงผู้คนบริเวณถนนศรีชมชื่น หลังเรือนจำกลางอุดรธานี กระทั่งบริเวณถนนสุรกาญจน์ ใกล้กับห้างท็อปเวิลด์เก่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.อัญชญา บุญยิ่งยวน อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิทยานุกุล และ น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ส่วนผู้บาดเจ็บมี 5 ราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางไปถึงห้าแยกหอนาฬิกา พบนายอิทธิพลถือมีดควงไปมาและพูดจาเพ้อเจ้อเหมือนคนคลุ้มคลั่งอยู่หน้าร้านขายยารวมชัยเภสัช ตำรวจและหน่วยกู้ภัย พร้อมชาวบ้านร่วมกันจับกุมเอาไว้ได้ ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะที่จิตแพทย์ระบุว่า นายอิทธิพลไม่มีประวัติการรักษา แต่มีประวัติใช้สารเสพติดและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่ลุงเขยของนายอิทธิพล อ้างว่า นายอิทธิพลไม่ใช่คนก้าวร้าว ไม่เสพยาบ้า อาศัยอยู่กับยายเพราะพ่อเสียชีวิตไปแล้ว แม่ไปทำงานที่ จ.พิษณุโลก ทำงานที่ฟาร์มหมูของลุงได้เงินเดือน 8,500 บาท เชื่อว่าอาจเล่นคุณไสยจนเข้าตัว


อันดับ 6 : นอกระบบยันลงโทษพนักงาน คลิปกระฉ่อนโซเชียลฯ บริษัทเงินกู้โหดทำร้าย-สายไฟฟาดจนน่วม

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ในโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่คลิปชายรายหนึ่งสวมเสื้อระบุชื่อบริษัท นั่งคุกเข่า ถูกชายอีกรายหนึ่งทำร้ายร่างกายและใช้สายไฟเฆี่ยนตีจนล้มลง ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่ทำได้เพียงแค่นั่งดูเหตุการณ์อย่างหน้าตาเฉย โดยอ้างว่าสาเหตุเพราะชายรายนี้อมเงิน กลายเป็นที่สะเทือนใจในโลกโซเชียลฯ โดยพบว่าเป็นบริษัทเงินกู้นอกระบบ มีสาขาอยู่จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดสมุทรสาคร ปรากฎว่าหลังทราบเรื่องทางตำรวจกระจายกำลังกันลงพื้นที่สืบหาข้อมูลกระทั่งทราบตัวผู้เสียหาย อายุ 30 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. และ ตำรวจสืบสวนกลาง ไปนำตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำ

นอกจากนี้ ตำรวจนำหมายค้นของศาลเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในซอยศรีสวัสดิ์ หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ผู้เสียหายรายนี้ยอมรับว่า เป็นลูกจ้างในบริษัทเงินกู้ดังกล่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. 2563 หลังเกิดเหตุไม่ได้เข้าแจ้งความ ซื้อยามาทานและนอนพักรักษาตัวประมาณ 3 วัน พอหายแล้วก็ไปทำงานเหมือนเดิม รอจนเงินเดือนออกจึงได้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวา ส่วนสาเหตุนั้นตนยังไม่ขอตอบ ตำรวจเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อดำเนินคดีกับชายที่ปรากฏในคลิป ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ


อันดับ 7 : อุทาหรณ์นักวิ่ง วันเดียวเสียชีวิต 3 ราย "อัษฎางค์" รองอธิบดีกรมควบคุมโรค หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เกิดเหตุสลดขึ้นในวงการนักวิ่ง เมื่อ นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ อายุ 59 ปี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เกิดวูบหมดสติก่อนเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ระหว่างร่วมกิจกรรม “ถิ่นวีรชน มินิฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 4” บริเวณอนุสาวรีย์ชาวบ้านบางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ตามมาด้วยนักวิ่ง 2 ราย คือ คือ นายสงกรานต์ จันธิยะ อายุ 30 ปี และนายนราสิฐ สันสมภาค อายุ 54 ปี เสียชีวิตหลังเกิดวูบหมดสติระหว่างเข้าร่วมวิ่งในรายการ “อาสา...พาวิ่ง 2020” โดยใช้เส้นทางรอบอ่างเก็บน้ำดอกกราย ภายในศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดง ตามพระราชดำริ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากให้ประชาชนตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยง เช่น คนมีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน ฯลฯ ในการวิ่งมาราธอน ส่วนใหญ่หากวิ่งระยะไม่ไกลมากจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่หากวิ่งในระยะทางไกล เช่น ฮาล์ฟมาราธอน (21 กิโลเมตร) ขึ้นไป ต้องดูแลและสังเกตตัวเอง ระหว่างที่วิ่งอยู่หากรู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทัน เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก ขอให้หยุดทันที อย่าฝืนรอคูลดาวน์ แล้วบอกคนรอบข้างหรือพยาบาลที่ประจำอยู่ตามจุด ให้รีบปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลทันที


กำลังโหลดความคิดเห็น