xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : #ในหลวงสู้สู้ เสียงจากโลกออนไลน์ | "ประยุทธ์" ถอยคนละก้าว | โศกนาฏกรรมท่อก๊าซระเบิด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 18 - 24 ต.ค. 2563)


ปีติ “ในหลวง-พระราชินี” ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรอย่างใกล้ชิด เสียงจากโลกออนไลน์ชูแฮชแท็ก #ในหลวงสู้สู้

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ภายหลังเสร็จจากการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปฏิสันถารกับนายฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ ผู้ที่ยืนถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ต่อหน้าผู้ประท้วง ตรัสว่า “กล้ามาก กล้ามาก เก่งมาก เก่งมาก ขอบใจ ขอบใจมาก” ทำให้นายฐิติวัฒน์ปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้

ขณะที่หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประชาชนรวมตัวกันสวมเสื้อสีเหลือง นัดแสดงพลังตามจุดต่างๆ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนโลกออนไลน์ได้มีประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดี โพสต์ข้อความโดยใช้แฮชแท็ก #อนุชนรักชาติศาสน์กษัตริย์ และ #ราษฎรไทยใต้ร่มพระบารมี เพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทั่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในระยะหนึ่ง และหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเยี่ยมราษฎร ก็มีการโพสต์ข้อความผ่านแฮชแท็ก #ในหลวงสู้สู้ เพื่อแสดงพลังอย่างต่อเนื่องเช่นกัน


อันดับ 2 : "ประยุทธ์" ถอยคนละก้าว! สภาเปิดประชุมวิสามัญหาทางออก ม็อบเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบันไม่หยุด

การชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่าคณะราษฎร 2563 หลังจากที่ตำรวจสลายการชุมนุมด้วยการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ที่มีน้ำผสมสีน้ำเงินและสารเคมีใส่ผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ทำให้สังคมไม่พอใจ นัดชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญ ลามไปถึงปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ สัปดาห์ที่ผ่านมามีการนัดชุมนุมแบบดาวกระจาย แม้ฝ่ายความมั่นคงจะปิดสถานีรถไฟฟ้า สั่งปิดสื่อออนไลน์ที่สนับสนุนการชุมนุมก็ตาม แต่ในที่สุดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ออกแถลงการณ์วอนให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว พร้อมใช้เวทีรัฐสภาแก้ปัญหา และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกหารือหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค ตัวแทนวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน หารือถึงแนวทางเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเร่งด่วน เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งส่วนใหญ่เห็นชอบ ก่อนที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ และเมื่อวันที่ 21 ต.ค. มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ 26-27 ต.ค. ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมก่อนหน้านี้ให้เวลานายกรัฐมนตรีลาออกภายใน 3 วัน แต่นายกฯ ไม่ลาออก ทำให้แกนนำคณะราษฎรเคลื่อนไหวต่อโดยการนัดชุมนุมใหญ่ที่หน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ในวันที่ 26 ต.ค.


อันดับ 3 : โศกนาฏกรรม! ท่อก๊าซธรรมชาติระเบิด ไฟท่วมฟ้า เสียชีวิต 3 บาดเจ็บ 66 ปตท.เยียวยาศพละ 5 ล้าน

โศกนาฏกรรม ท่อส่งก๊าซธรรมชาติระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.22 น. วันที่ 22 ต.ค. ท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (สุวรรณภูมิ) เกิดระเบิดขึ้นบริเวณแนวเสาไฟฟ้าแรงสูง ตรงข้ามวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ถนนเทพราช-ลาดกระบัง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้เกิดก๊าซฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศ เกิดการติดไฟ แล้วมีเปลวเพลิงพุ่งขึ้นสูงจากพื้นดิน มองเห็นได้ในระยะไกล สร้างความเสียหายในรัศมี 500 เมตร มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 66 คน บ้านเรือนเสียหาย 34 ครัวเรือน รถยนต์ 62 คัน รถจักรยานยนต์ 59 คัน ร้านค้า 7 แห่ง โรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี และสถานีตำรวจภูธรเปร็ง

ขณะที่นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แสดงความเสียใจพร้อมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยมอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บรายละ 50,000-500,000 บาท ขณะที่นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร นำผู้เชี่ยวชาญสำรวจจุดเกิดเหตุพบว่าท่อเหล็กขนาด 36 นิ้ว หนา 1.5 เซนติเมตร ลึก 4 เมตร ท่อฉีกขาด แรงดันทำให้ดินทะลักขึ้นมา เศษดินลอยไปแตะสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เกิดประกายไฟ เมื่อก๊าซลอยไปเจอกับประกายไฟทำให้เกิดระเบิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทำไมท่อถึงฉีกขาด


อันดับ 4 : โควิด-19 รายล่าสุดที่สมุย กักตัว 14 วันแล้วดันป่วย ทัวร์จีนกลุ่มแรกมาแล้ว ถือวีซ่า STV อยู่ไปยาวๆ

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) การผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร ซึ่งจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ผ่านโรงงานของบริษัท สยามไอโอไซเอนซ์ จำกัด และยังให้สิทธิจัดจำหน่ายวัคซีนให้แก่ประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย ต่อมาวันที่ 20 ต.ค. นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกที่เข้ามาด้วยวีซ่าประเภทพิเศษ (STV) จากกรุงปักกิ่ง 39 คนมาถึงแล้ว ซึ่งจะต้องถูกกักตัว 14 วัน ก่อนท่องเที่ยวในประเทศได้สูงสุด 270 วัน

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นหญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 57 ปี เดินทางมาจากประเทศฝรั่งเศส พร้อมสามีและลูกชาย ถึงไทยวันที่ 30 ก.ย. กักตัวที่ จ.สมุทรปราการ ระหว่างนั้นตรวจร่างกาย 2 ครั้งไม่พบเชื้อ ครบ 14 วัน ออกจากสถานที่กักตัววันที่ 15 ต.ค. แต่พบว่าวันที่ 17 ต.ค. เริ่มมีไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ กระทั่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาล นำเชื้อไปตรวจแล้วพบผลเป็นบวก ขณะนี้อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลเกาะสมุย ทีมสอบสวนโรคติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดหลายคน ตรวจไม่พบเชื้อ แต่สถานที่กักตัว จ.สมุทรปราการ พบเชื้อที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส


อันดับ 5 : ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ กรมอุตุฯ ประกาศฤดูหนาว โคราช-ปราจีนฯ-สระแก้ว น้ำท่วมอ่วม

ในที่สุดประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ หลังจากเมื่อวันที่ 22 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง การเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2563 เนื่องจากทิศทางลมเปลี่ยน ประกอบกับอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าตอนบนลดลงอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นโดยทั่วไป ทำให้ในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันปิยมหาราช มีประชาชนแห่ไปเที่ยวชมสัมผัสความหนาวเป็นจำนวนมาก เช่น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 11 องศาเซลเซียส ที่กิ่วแม่ปาน ขณะที่ภาคอีสาน อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย อุณหภูมิลดลงเหลือเพียง 10 องศาเซลเซียสเท่านั้น

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าที่จังหวัดนครราชสีมา มวลน้ำมหาศาลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ไหลเข้าเขื่อนลำตะคองเกินระดับกักเก็บ ขณะที่เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย น้ำส่วนเกินไหลล้นสปิลเวย์ ลงท้ายเขื่อนจำนวนมหาศาล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย ส่วนจังหวัดปราจีนบุรี น้ำป่าจากเขาใหญ่ด้าน อ.นาดี และน้ำจากแควพระสะทึง จ.สระแก้ว ไหลเข้าท่วมเทศบาลตำบลกบินทร์สูง 1.5 เมตร และที่จังหวัดสระแก้ว มวลน้ำไหลมาจาก อ.วัฒนานคร เข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ หนักที่สุดในรอบ 8 ปี ก่อนไหลลงสู่ประเทศกัมพูชา


อันดับ 6 : ความจริงก็คือความจริง! อุทธรณ์ยืน หวย 30 ล้านของ "ลุงจรูญ" ชี้ "ครูปรีชา" ไม่ได้ซื้อแต่ไปรับลูก

มหากาพย์ศึกชิงสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 มูลค่ารวม 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องแพ่ง ขอให้อายัดเงินในบัญชีและฟ้องอาญาลุงจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร และศาลตัดสินยกฟ้องเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2562 ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องครูปรีชา เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝ่ายลุงจรูญ กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เน้นเรื่องหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะคลิปเสียง กับสัญญาณสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่าคลิปเสียงในวันที่ 31 ต.ค. 2560 ครูปรีชาอ้างว่าไปตลาดเรดซิตี้ ปรากฎว่าออกจากโรงเรียนแล้วเดินทางไปรับลูกที่โรงเรียน ขัดกับพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และที่กองปราบฯ จำลองเหตุการณ์ เตรียมฟ้องกลับครูปรีชา เจ๊เกียว เจ๊พัช รวมทั้งเจ๊บ้าบิ่น และนายแผน ที่สร้างเรื่องราวขึ้นมาให้ลุงจรูญเกิดความเสียหายและอาจถูกจำคุกได้ ขณะที่ครูปรีชาเคารพในคำตัดสินของศาล แต่จะปรึกษาทนายความขอฎีกา เพราะความจริงก็คือความจริง


อันดับ 7 : คุกไทยมีไว้ขังคนจนอีกหรือ? "ไฮโซจิมมี่" ตำรวจพันล้านทายาท "เตชะอุบล" ขับรถหรูชนคนตายแล้วหนี

เรื่องราวไฮโซขับรถชนคนตาย สะเทือนกระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ร.ต.อ.อัครวินทร์ เตชะอุบล หรือ ไฮโซจิมมี่ ทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นของเมืองไทย ปัจจุบันเป็นตำรวจ รองสารวัตรฝ่ายยุทธศาสตร์ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขับรถสปอร์ตหรู บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม 4 สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ต 5555 กรุงเทพมหานคร ชนรถพ่วงขายลูกชิ้น บริเวณปากซอยพัฒนาการ 17 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ทำให้ นายอุดม แสงกันยา อายุ 49 ปี พ่อค้าลูกชิ้นเสียชีวิต แต่เจ้าตัวกลับหลบหนีออกจากรถ ปล่อยให้หญิงวัย 25 ปี ที่นั่งมาด้วยกันอยู่ในที่เกิดเหตุลำพัง

หลังข่าวแพร่สะพัดออกไป เย็นวันที่ 22 ต.ค. ร.ต.อ.อัครวินทร์ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ก่อนถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และมีผู้ถึงแก่ความตาย ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ไม่แจ้งเหตุแก่เจ้าหน้าที่ใกล้เคียง ก่อนให้ประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท คดีนี้สังคมต่างตั้งคำถามว่า ร.ต.อ.อัครวินทร์ หนีทำไม ระหว่างหนีไป 13 ชั่วโมง ถ้าในร่างกายมีอะไร จะมีผลต่อการตรวจพบหรือไม่ อีกทั้งความเป็นตำรวจและทายาทพันล้านจะมีผลต่อคดีหรือไม่ เฉกเช่นคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่สังคมวิจารณ์ว่า คุกไทยมีไว้ขังคนจน