“สุดารัตน์” กระตุกรัฐออกมาตรการชัดเจน เรียกความเชื่อมั่นภาคท่องเที่ยว เห็นใจผู้ประกอบการเจอข่าวทัวรืจีนบุกภูเก็ต ยอดจองในประเทศลดฮวบ แนะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสาธารณสุข ปั้น “ภูเก็ต” ประเดิมโมเดลหลุมหลบภัยโควิด-19 ย้ำสาธารณสุขกับเศรษฐกิจต้องเดินหน้าด้วยกัน
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 8-11 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยเฉพาะวิกฤตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่หายไป ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบในระดับจังหวัดเท่านั้น แต่ทำให้รายได้ประเทศหายไปด้วย อย่าง จ.ภูเก็ตซึ่งเคยทำรายได้เข้าประเทศรายได้ปีละกว่า 4 แสนล้านบาท และทำให้คนอีกกว่า 2 แสนคนมีงานทำ ดังนั้น จึงเป็นวาระสำคัญของภาครัฐที่ต้องทำให้จังหวัดแห่งนี้กลับมา เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลังโควิด-19 อย่างปลอดภัย
“รัฐบาลต้องทำให้ จ.ภูเก็ตเป็น หลุมหลบภัยจากโควิด-19 ให้คนทั่วโลกมาท่องเที่ยว หรือมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ซึ่งขั้นแรกเลยคือ รัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข ด้านการรักษา และป้องกันโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมประกาศสร้างความมั่นใจให้ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติว่า ไทยเรามีระบบควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิภาพ และหากมีการติดเชื้อเราก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยสถานประกอบการสามารถรักษามาตรฐานการป้องกันโควิด-19 ได้ ซึ่งต้องวางระบบการป้องกันในเชิงระบาดวิทยาซึ่งสามารถควบคุม พื้นที่หากมีการระบาดกรณีฉุกเฉินได้” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้เชิญชวนคนที่จะเข้ามาใช้ชีวิตท่องเที่ยวและทำงาน ภายใต้ นิยามว่า “Staycation” โดยมีการกักตัว ในสถานที่พักผ่อนที่สามารถทำกิจกรรมผ่อนคลาย และทำงานไปพร้อมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลควบคุม ซึ่งหากดำเนินการได้จะสามารถรับคนที่จะมาทำงานได้จากทั่วโลก และเห็นว่าหากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำเร็จ จะสามารถดึงคนเข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยวในระยะยาว เพื่อใช้ประเทศไทย เป็นหลุมหลบภัยโควิด-19 ได้ ซึ่งภาครัฐอาจต้องอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า รวมถึงการรับรองความปลอดภัย พร้อมเก็บรายได้จากการเข้ามาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
"วันนี้เป็นที่น่าเสียดายที่รัฐยังไม่สามารถออกมาตรการให้ประชาชนเกิดความมั่นใจได้ว่า รัฐมีความพร้อมสำหรับการรับมือโควิด-19 ได้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า การเสนอข่าวสารข้อมูลของรัฐบาลต้องนานไม่สับสนเช่น 2-3 วันนี้ทราบว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกเข้ามาที่ จ.ภูเก็ต ที่รัฐบาลจะหวังเป็นข่าวดีในการฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่า แต่ละหน่วยงาน แต่ละรัฐมนตรี ออกมาประกาศไม่ตรงกันเลย สร้างความสับสน ต่างคนต่างพูด รวมถึงไม่มีมาตรการสร้างความมั่นใจ ได้เลยว่า รัฐจะมีความสามารถและมีศักยภาพในการควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดได้ จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ตั้งใจที่จะไปเที่ยวที่ จ.ภูเก็ตแห่กันยกเลิกที่พัก เพราะกลัวว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาจะมีการระบาดรอบสองอีกหรือไม่ ที่สำคัญก็ยังไม่มีมาตรการว่าเอาเข้ามาแล้ว จะให้อยู่ตรงไหน ทำอย่างไร กักตัวหรือไม่ และต้องทำมาตรฐาน ทางด้านการสาธารณสุข ให้คนเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะการกำกับควบคุมไม่ให้โรคเกิดการระบาด เหล่านี้คือสิ่งที่เคยเสนอไปหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐ เมื่อรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนจึงสร้างความหวาดกลัวให้คนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทย ก็ยกเลิกการจอง รายได้ที่คิดไว้ก่อนหน้าจึงหายไป
"เราไปภาคภูมิใจกับความเป็นแชมป์โลก ที่ไม่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ถามว่าวันนี้ เราจะรักษาแชมป์การที่ไม่มีคนติดโควิด-19 เลย กับการที่จะทำให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัยกับโควิด-19 แล้วเศรษฐกิจเดินได้ จะเลือกอะไร" คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำด้วยว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามา แน่นอนว่าคนไทยต้องการรับนักท่องเที่ยว แต่หากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน ก็ต้องกลัวไว้ก่อน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่น่ากังวล.