“ทนายเทวดา” แนะควรฟัง “พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย” ผู้เชี่ยวชาญของศาลด้านการพิสูจน์ความเสียหาย เชื่อ “วรยุทธ อยู่วิทยา” ขับเร็วไม่เกิน 80 แนะ “วิชา มหาคุณ” เชิญมาสอบ ชี้ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนน่าเชื่อถือกว่าหลักฐานนอกสำนวน ที่อ้างความเร็ว 177 แนะทนาย “บอส” เสนอศาลออกหมายเรียก “วิชา-อรรถพล” ไปฟังข้อเท็จจริง จะได้รู้ใครคือเด็กเลี้ยงแกะ
วันนี้ (22 ส.ค.) ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับสำนวนในคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง โดยระบุข้อความว่า ปัญหา “ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน” น่าเชื่อถือกว่าหลักฐานที่ปรากฏนอกสำนวน
โดย นายสุกิจ พูนศรีเกษม ระบุว่า ทนาย “รณณรงค์ แก้วเพชร” ได้โพสข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับคดี นายวรยุทธ หรือ “บอส” อยู่วิทยา ที่ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการขับรถความเร็วสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ใครคือ “เด็กเลี้ยงแกะ” ผมอ่านแล้วน่าหยิบขึ้นมาเป็นกรณีศึกษา
คำว่า “เด็กเลี้ยงแกะ” เป็น “นิทานอีสป” ว่า มีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งเคยอาศัยร่วมกันกับชาวบ้าน มีนิสัยชอบโกหก แกล้งคน ...สามารถเปรียบเทียบกับพยานที่กับไปกลับมาได้
ถึงแม้คดีนี้จะตั้งข้อหา นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็ไม่อาจรับฟังลงโทษได้ ยิ่งพยานปาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ผู้ตรวจสอบความเร็ว ได้ทำรายงานเป็นกระดาษแผ่นเดียว ว่า รถยนต์คันที่นาย วรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ได้ขับรถด้วยความเร็วสูง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มีการกลับคำให้การและให้การใหม่ว่า คำนวณผิด แท้จริงแล้วไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่เท่าที่รู้ในคำสั่งอัยการไม่ได้เชื่อพยานปากนี้เท่าที่ควร และก็ไม่ได้เชื่อคำให้การของ ดร.สายประสิทธิ์ ที่แม้จะทำรายงานประกอบการคำนวณความเร็วไว้อย่างละเอียดกว่า 10 แผ่นก็ตาม เพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน
ถึงแม้คดีนี้ขึ้นสู่ศาลเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าศาลจะต้องเอาพยานคนกลางที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรถยนต์มาเป็นพยาน จึงฝากถามท่านวิชา มหาคุณ กับ ท่านสิระ เจนจาคะ แม้ท่านจะมีอำนาจที่จะเรียกใครต่อใครมาสอบ แต่ผู้ที่ท่านสอบนั้นเป็นเพียงพยานบอกเล่า มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และส่วนใหญ่เป็น “พยานนอกสำนวน”
พยานที่อยู่ในสำนวน มี พ.ต.อ.วิรดล ผู้กำกับสอบสวน และ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ที่มาเล่าให้ท่านฟังว่า ที่ให้การว่าความเร็วของรถยนต์ของนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ว่าอยู่ในอัตราความเร็วไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้น เนื่องจากถูกกดดัน จากอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง แต่บอกชื่อไม่ได้ว่าเป็นใคร
ท่าน พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตำรวจ ยืนยัน “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง” ไม่ได้ไปที่กองพิสูจน์หลักฐาน ยิ่งไปกว่านั้นได้ความว่า พล.ต.อ.สมยศ แจ้งว่าได้เดินทางไปต่างประเทศ
แต่ท่านวิชา มหาคุณ กับ ท่านสิระ เจนจาคะ ท่านยังไม่ได้เรียกพยานที่ปรากฏในสำนวนอีกคนหนึ่งที่ปรากฏในสำนวน พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของศาล ในการตรวจพิสูจน์ความเสียหาย ที่ได้ให้การต่อ พ.ต.อ.วิรดล เช่นกันว่า จากสภาพความเสียหายของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ นำมาเปรียบเทียบกับวัตุพยานของกลาง รถทั้งสองคนขับไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อ 1 ชั่วโมง
พยานปากนี้เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการตรวจพิสูจน์ความเสียหายของรถมานับไม่ถ้วน ที่สำคัญ เป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานของกลางที่ขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญของศาล
ถ้าหากคดีนี้ขึ้นสู่ศาล ความน่าเชื่อถือในพยานปาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ที่ให้การกลับไปกลับมาอย่างนี้ ข้อแก้ตัวที่อ้างว่าถูกกดดันต่างๆ นานา แม้จะอ้างว่าคำนวณผิดก็ตาม ก็ไม่ใช่เหตุที่ศาลจะรับฟังให้เป็นโทษแก่ผู้กระทำความผิดหาได้ไม่ ผิดกับพยานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการตรวจพิสูจน์ความเสียหายและเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาล
ใครคือ “เด็กเลี้ยงแกะ” ทีมทนายของ บอส อยู่วิทยา น่าจะทำอะไรสักอย่าง แล้วมีหมายเรียกให้ท่านวิชา มหาคุณ และท่านอรรถพล ใหญ่สว่าง ไปศาล เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงทางคดีในประเด็นนี้ ที่พนักงานรองอัยการสูงสุด เคยสั่งเด็ดขาดไปแล้วให้สิ้นกระแสความ จะรู้ว่า “ใครเป็นเด็กเลี้ยงแกะ”