“หมอทวีศิลป์” เผยที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่มีหลายเรื่อง ชง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างคลายล็อกมีความเสี่ยงสูง ต้องกำกับดูแลต่อเนื่อง เสนอทำ OSQ รับต่างด้าว พิจารณามาตรการกรณีชาวต่างชาติมาแสดงสินค้าและถ่ายหนัง นายกฯ ห่วงใยม็อบ แนะต้องจัดสมดุลการจัดการระยะห่าง
วันนี้ (22 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 6 ราย จาก State Quarantine ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,261 ราย ป่วยหายแล้วสะสม 3,105 ราย รักษาอยู่ 98 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 58 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ประเทศไทย มาจากอียิปต์ 4 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย และ เยอรมนี 1 ราย ส่วนสถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 15,093,712 ราย รักษาตัว 63,692 ราย รักษาหายแล้ว 9,110,724 ราย เสียชีวิต 619,467 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ บราซิล และอินเดีย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 103
ผลการประชุม ศบค. ชุดใหญ่วันนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขอัปเดตชุดข้อมูลจากจังหวัดระยอง และ กทม. ทุกราย 7,207 รายไม่พบเชื้อ ส่วนความก้าวหน้าของวัคซีนภายในประเทศ ทำงานโดยฝ่ายวิชาการจากมหาวิทยาลัย ส่วนต่างประเทศที่อังกฤษเริ่มทดลองในมนุษย์แล้ว ที่ประชุมให้มีความร่วมมือเป็นทางการในรัฐบาล และประสานงานภาคเอกชน โดยบริษัท สยาม ไบโอไซน์ ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ส่วนงบประมาณได้อนุมัติหลักการและลงรายละเอียดเพื่อหาแหล่งทุน และร่วมมือกับประเทศที่มีศักยภาพผลิตวัคซีน
การติดตามประเมินผลตามมาตรการผ่อนคลาย โดย ผบ.ทสส. รายงานเปรียบเทียบระหว่างระยะที่ 4 และระยะที่ 5 ซึ่ง ผอ.ศบค. ระบุว่า จะต้องสร้างความร่วมมือมากขึ้น และมีบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ส่วนประเด็นเพื่อพิจารณา ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลขาธิการ สมช. รายงานว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีคนไทยและต่างชาติเข้ามาในราชอาณาจักร และมาตรการผ่อนคลายเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงต้องควบคุมการเข้า-ออกราชอาณาจักรในทุกช่องทาง ระบบติดตามตัว และควบคุมโรค จำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ และอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะเป็นเครื่องมือนำไปสู่ชีวิตวิถีใหม่
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำข้อตกลงพิเศษ สำหรับกลุ่มนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางเข้ามา และนักการทูต โดยสรุปต้องอยู่ใน State Quarantine กระทรวงต่างประเทศจะเป็นผู้ที่ลงในรายละเอียด ขณะที่หลักปฏิบัตินำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา โดยกระทรวงแรงงาน มี 2 กลุ่ม คือ มี Work Permit 69,235 คน และ ไม่มี Work Permit 42,168 คน รวมแล้วกว่า 1 แสนคน เข้ามาในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมอาหาร หากต้องกักตัวใน State Quarantine ต้องมีต้นทุนกว่า 2 หมื่นบาท ซึ่งจะมีแนวคิดทำ Organizational State Quarantine เพื่อให้ได้รับการตรวจมาตรฐานไปพร้อมกัน ซึ่งต้องดูว่ามีระบบไม่ให้ออกข้างนอกอย่างไร และการอยู่ในพื้นที่ไม่ถ่ายทอดเชื้อไปติดของคนอื่น เหมือนระบบ State Quarantine และ Local Quarantine ที่ดูแลกว่า 6 หมื่นคน
ส่วนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 4 กลุ่ม เช่น ชาวต่างชาติเข้ามาแสดงสินค้าจำนวนมาก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจพอสมควร จึงขออนุญาต ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วต้องอยู่ใน ศบค. กำหนดไว้เป็น Alternative State Quarantine ระหว่างที่อยู่จะต้องมีเจ้าหน้าที่กำกับดูแล 1 คนต่อชาวต่างชาติ 10 คน การจัดช่องทาง จัดโต๊ะที่นั่ง ถ้าคู่ค้าเจรจาโต๊ะต้องมีแผ่นกั้น ที่ประชุมได้พิจารณาและรับหลักการ โดยให้ สสปน. จะให้รายละเอียด ส่วนการให้ชาวต่างชาติมาถ่ายทำภาพยนตร์ วันนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีข้อเสนอป้องกันการแพร่ระบาดให้ที่ประชุมทราบ เช่น การมีใบรับรองแพทย์ มี ASQ มีเจ้าหน้าที่ Lialson Officer มีประกันสุขภาพ พร้อมกับเสนอทำ Medical and Wellness Program เพื่อให้ผู้ที่มารักษาในประเทศและกักตัว 14 วันได้เข้ามาท่องเที่ยว ส่วนผู้ถือบัตร Thailand Elite Card นำร่องให้มีการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร 200 ราย จะหามาตรการเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
ในตอนท้าย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ฝากให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ขอบคุณชาวระยองและ กทม. ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำงานอย่าท้อถอย พยายามจัดสมดุลให้ได้ระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ มีแผนทั้งเชิงรุกและเผชิญเหตุ ฟังเสียงประชาชนและความคาดหวังของประชาชน ให้ปรับไปตามสถานการณ์ของโลกและประเทศไทย พยายามเพิ่มเติมด้านการสื่อสารโดยเฉพาะด้านออนไลน์ และได้รับพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ที่ทำให้มีการดูแลประชาชนจังหวัดระยอง สร้างความมั่นใจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังห่วงใยเรื่องการชุมนุม ต้องจัดสมดุลเรื่องของการจัดการระยะห่าง เนื่องจากมีการติดเชื้ออยู่ภายในประเทศ
สำหรับการแถลงข่าวครั้งต่อไป ในวันพรุ่งนี้จะเป็น พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ที่กระทรวงสาธารณสุข และในวันศุกร์จะเป็น นพ.ทวีศิลป์ ส่วนสัปดาห์หน้า ผอ.ศบค. เห็นว่า สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว จะลดการแถลงข่าวลงเหลือเฉพาะวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ สลับกันระหว่าง นพ.ทวีศิลป์ ในวันจันทร์และวันศุกร์ กับ พญ.พรรณประภา ในวันพุธต่อไป