ศบค.ห่วงพักกลางวันคนหนาแน่น แนะซื้อไปทานที่ออฟฟิศหรือนำมาจากบ้าน

“พญ.พรรณประภา” ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงพบผู้ป่วยใหม่ 2 ราย จาก State Quarantine สะสม 3,121 ราย ชี้ ต้องรอให้ผู้ติดเชื้อเป็น 0 ครบ 28 วัน ถึงจะอยู่ในระยะความเสี่ยงต่ำ ห่วงช่วงพักกลางวันผู้คนหนาแน่น แนะซื้อไปทานที่ออฟฟิศ นำอาหารมาทานเอง หรือเหลื่อมเวลาการพักเที่ยง

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 2 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,121 ราย ป่วยหายแล้วสะสม 2,973 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย รักษาอยู่ 90 ราย เสียชีวิต 0 ราย สะสมรวม 58 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ประเทศไทย เดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้าพักใน State Quarantine ได้แก่ เพศชาย อายุ 22 ปี อาชีพนักศึกษา จากประเทศซาอุดีอาระเบีย รักษาที่โรงพยาบาลยะรัง จ.ปัตตานี อีกราย เพศหญิง อายุ 31 ปี อาชีพพนักงานบริษัท จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ผลบวกไม่ชัดเจน เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี กระทั่งตรวจพบเชื้อ ในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุด ผู้ป่วยยืนยันตามปัจจัยเสี่ยง พบอาชีพนักเรียน/นักศึกษามากที่สุด รองลงมาคือ รับจ้างทั่วไป/ฟรีแลนซ์ พนักงานนวด พนักงานบริษัท/โรงงาน

เมื่อถามว่า เมื่อไม่มีผู้ป่วยภายในประเทศต่อเนื่อง 15 วัน ถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัยหรือไม่ สามารถกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติหรือไม่ ชี้แจงว่า ตามหลักการทางระบาดวิทยา ระยะปลอดภัยจะใช้เวลา 2 เท่าของระยะเวลาฟักตัวที่ยาวที่สุดของโรค โดยเชื้อโควิด-19 ระยะฟักตัวอยู่ที่ 14 วัน ถ้าผ่านไป 28 วัน ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะถึงระยะที่มีความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ มีการระบาดระลอกที่ 2 ตามผับบาร์ โบสถ์ และศูนย์กระจายสินค้าซึ่งระบาดแบบกลุ่ม ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ นอกจากนี้ การตรวจพบเชื้อใน State Quarantine ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการ เพราะฉะนั้นในตอนนี้ยังคงเฝ้าระวัง ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างทางสังคม

สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 7,193,988 ราย รักษาตัว 53,797 ราย รักษาหายแล้ว 3,535,491 ราย เสียชีวิต 408,628 ราย สหรัฐอเมริกา ยังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ บราซิล และรัสเซีย อินเดียอยู่ในอันดับ 6 ส่วนประเทศไทยลงมาจากอันดับที่ 81 อยู่ในอันดับที่ 83 สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย ผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงสุด คือ อินเดีย รองลงมาคือ ปากีสถาน และบังกลาเทศ ส่วนสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ มีผู้ป่วยใหม่หลักร้อยราย ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ รัฐบาลนิวซีแลนด์ยุติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังไม่มีผู้ติดเชื้อ ส่วนประเทศไทย มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังการระบาดของโควิด-19 ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ประกอบการ

พญ.พรรณประภา กล่าวในตอนท้ายว่า ก่อนหน้านี้ มีการ Work From Home แต่หลังจากที่มีการผ่อนคลายก็มีการกลับมาทำงานที่บริษัท ปัญหาที่พบก็คือการรับประทานอาหารกลางวัน อาจมีความหนาแน่นของผู้คนมากขึ้น ขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจล รวมทั้งเว้นระยะห่างทางสังคม ถ้าเห็นว่ามีคนเยอะแล้วซื้อกลับไปรับประทานที่ทำงาน หรือนำอาหารจากที่บ้านมาทานเอง หรือเหลื่อมเวลาการพักเที่ยง เพื่อลดความหน่าแน่น