แร้งลง “ดอนแพง” นครพนม เศรษฐีร้อยล้าน-เจ้าแม่เงินกู้ มีชื่อโผล่เกษตรกรยากจน ยึดสิทธิที่ดินรัฐปล่อยเช่าชาวไร่

“ดอนแพง” นครพนมวุ่นนาย ทุน “เจ้าแม่ อ.” เศรษฐีเงินร้อยล้าน-ลูกชาย มีชื่อโผล่ในบัญชีเกษตรกรยากจน เผยยึดสิทธิชาวไร่ ปล่อยเช่าที่ดินหลวงให้ชาวบ้าน ส่อขัดประกาศกระทรวงมหาดไทย

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสานติดชายแดนริมแม่น้ำโขงนั้นมีมากหมายหลากหลาย เลือกไปเยือนแถบไม่ถูก ความสวยงามมีมากมาย “จังหวัดนครพนม” เป็นอีกจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานที่ติดริมแม่น้ำโขง เรียกได้ว่าเพชรเม็ดงามที่ยังไม่เจียระไน ยังเป็นที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็น ภูลังกา น้ำตกตาดขาม น้ำตกตาดโพธิ์ น้ำตกตาดโพธิ์ หาดแห่ หาดดอนแพง

ในจังหวัดนครพนมมีพื้นที่อีกหนึ่งที่น่าสนใจไกลปืนเที่ยงหน่อย คือ หาดดอนแพง อยู่ติดฝั่งริมแม่น้ำโขง ประวัติเดิมพื้นถิ่นผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวว่า เมื่อ 200 กว่าปี มีชาวเมืองปุงลิง เขตท่าแขก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อพยพมาตั้งรกรากปักฐานทำมาหากินบริเวณเกาะ หรือปัจจุบันเรียกว่า “หาดดอนแพง” และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกชื่อว่า “ต้นแพง” จนเกิดตะกอนดินในแม่น้ำโขงไหลทับถมเกิดเป็นหาดขนาดใหญ่จนเชื่อมติดฝั่งชาวบ้านจึงเรียกติดปากกันว่า “บ้านแพง“

ต่อมาในปี พ.ศ. 2502 รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายยกรัฐมนตรี โดย พล.ต.อ.หลวงชาติตระการโกศล ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกประกาศมอบหมายให้จังหวัดนครพนมจัดหาผลประโยชน์ที่ดินของรัฐอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินเกาะดอนแพง ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม จัดพื้นที่เกาะดอนแพง 2,345 ไร่ ให้ชาวบ้านและเกษตรกรเช่า ลงวันที่ 23 มกราคม 2502 โดยมีข้อตกลงในการครอบครองเพื่อเกษตรกรโดยเฉพาะ แต่ต้องชำระค่าเช่าภายในวันที่ 1-31 ตุลาคมของทุกปี และเสียค่าบำรุงท้องที่ไร่ละ 20 บาท

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบข้อมูลมีชื่อ บุคคลที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร แต่กลับกลายเป็น “เจ้าแม่ อ.” เจ้ามือหวยเถื่อน นายทุนปล่อยเงินกู้ เศรษฐีระดับร้อยล้าน และลูกชาย มีชื่อสวมสิทธิถือครองที่ดินหลายร้อยไร่เป็นเกษตรกรยากจน สร้างความงุนงงให้ชาวบ้านตาดำๆ และเกษตรกรตัวจริง ข้อมูลเชิงลึกของชาวบ้านน่าจะเกิดจากการที่เกษตรกรไปหยิบยืมเงินซื้อปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ต่อมาพืชผลขายไม่ได้ ไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ จึงถูกข่มขู่ให้ยกที่ดินเพื่อเป็นการชำระหนี้แทน หลังจากนั้นจึงนำที่ดินดังกล่าวกลับไปให้ชาวบ้านเช่าต่ออีกครั้ง ในราคาแปลงละ 5-7 พันบาทต่อปี เป็นเวลาเกือบ 30 ปี โดยที่ดินดังกล่าวยังเป็นของรัฐซึ่งไม่สามารถทำได้

เป็นที่น่าสังเกตว่า เรื่องนี้ผ่านขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ไปได้อย่างไร แถมเล็ดลอดสายตายุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่องนี้น่าจะมีการหมกเม็ดซ่อนปมไว้ใต้พื้นทรายบ้านดอนแพงนานมานับสิบปี ถึงขนาดชาวบ้านรวมตัวเข้าร้องเรียนเปิดโปงขบวนการงาบที่เกษตรกร แกนนำกลับกลายมีค่าหัวถูกจัดหามือปืนซุ้มคนมีสีจากภาคตะวันออก แต่ทว่ายังไม่มีใครกล้ารับงาน เพราะสถานการณ์โควิดในพื้นที่นครพนมตรวจถี่ยิบจึงไม่กล้ารับงาน

ชาวบ้านหวาดผวา! มิกล้าเปิดปาก เรื่องราวจะบานปลาย

ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี โปรดรับทราบสั่งการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด่วน! ส่อมีขบวนการฮั้วถึงขนาดผู้นำชุมชนยกย่องเทิดทูนราวยังกะเทวดาขาดเธอไม่ได้ ไม่มี “เจ้าแม่ อ.” สร้างคุณงามความดีทุกอณูรูขุมขน ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ทนโท่ว่าพฤติกรรมผิดกฎหมาย

ชาวบ้านชาวช่องเดือดร้อนจะไม่มีที่ทำกิน กรรมสิทธิ์ตกไปอยู่ในมือนายทุนโดยมิชอบ ชาวไร่ชาวสวนถูกรีดนาทาเร้น จะอยู่ทำมากินบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้แล้ว

ก่อนที่ “ดอนแพง” นครพนม จะกลายเป็นดอนแร้งลงเสียก่อน!