ศบค.ชี้มาตรฐานกลาง “สุรา” ขายได้แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ จะชี้ขาด - “สถานเสริมความงาม” ยังเปิดไม่ได้

ศบค.แถลงข่าวดี ผู้ป่วยต่ำสิบต่อเนื่อง พบที่ภูเก็ตตรวจเชิงรุกแล้วเจอ แจงมาตรการผ่อนปรนในราชกิจจานุเบกษา เปิดสวนให้วิ่ง เดิน ปั่นจักรยานได้ กีฬาได้แค่ตีกอล์ฟกับเทนนิส เพราะอยู่กลางแจ้ง อากาศถ่ายเท ยันสุราขายได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด ย้ำ คลินิกเสริมความงาม ฉีดโบทอกซ์ ทำศัลยกรรมยังเปิดไม่ได้ กำลังพิจารณาอยู่ในเฟส 2 หรือ 3

วันนี้ (2 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 6 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,966 ราย ใน 68 จังหวัด หายป่วยแล้ว 13 ราย หายป่วยสะสม 2,732 ราย รักษาอยู่ 180 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 54 ราย โดยผู้ป่วยจำแนกเป็น สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 2 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชนเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 2 ราย และอีก 2 ราย เดินทางจากต่างประเทศ เป็นชายวัย 52 ปี ใช้รถไฟฟ้าร่วมกันที่ญี่ปุ่น อีกรายหนึ่ง หญิงวัย 52 ปี เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดีย จำแนกผู้ป่วยสูงสุด อันดับหนึ่ง กรุงเทพฯ ภูเก็ต นนทบุรี ยะลา สมุทรปราการ พบจังหวัดระยองไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วัน ร่วมกับ ระยอง ตาก และอุดรธานี

ส่วนสถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,401,002 ราย รักษาตัว 51,355 ราย รักษาหายแล้ว 1,081,005 ราย เสียชีวิต 239,602 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ป่วยสะสม 1,131,452 ราย เสียชีวิตสะสม 65,776 ราย เฉพาะวัน 1,915 ราย รองลงมา รัสเซีย อิตาลี สหราชอาณาจักร และ ฝรั่งเศส ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 60 พบอินเดีย ปากีสถาน และสิงคโปร์ มีผู้ป่วยสูงขึ้น แนวโน้มผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกายังทรงตัว ส่วน รัสเซีย บราซิล อังกฤษ ยังเกาะกลุ่มอยู่ด้านล่าง แต่ทวีปเอเชีย พบอินเดีย ยังน่าเป็นห่วง สิงคโปร์ผู้ป่วยลดลงแต่ยังเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอาเซียน ที่มาเลเซียแม้จะมีการต่อมาตรการล็อกดาวน์ถึงวันที่ 12 พ.ค. แต่มีการผ่อนคลายเป็นลำดับขั้น ส่วนเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ปิดเมืองอีกครั้ง หลังพบการระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง ชี้ รัฐบาลท้องถิ่นผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป ส่วนสหรัฐอเมริกา แคลิฟอร์เนีย สั่งปิดชายหาด และนิวยอร์กยกเลิกรถไฟใต้ดิน ปิดบริการระหว่างเวลา 01.00-05.00 น. เพื่อทำความสะอาด

ส่วนการเดินทางกลับจากต่างประเทศ วันนี้มีคนไทยกลับจากต่างประเทศคาซัคสถาน เนเธอร์แลนด์ ดูไบ พรุ่งนี้มาจากสเปน สิงคโปร์ รัสเซีย ส่วนประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุด มาเลเซีย 454 คน การกระทำความผิดในมาตรการเคอร์ฟิวมีการชุมนุมมั่วสุม 75 ราย เหตุผลหลัก คือ เล่นการพนัน ดื่มสุรา และเสพยาเสพติด ส่วนออกนอกเคหสถานมี 550 ราย โดยเน้นย้ำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย 100% และรักษาระยะห่างอีกด้วย

ด้าน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวชี้แจงข้อกำหนดที่ออกในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวานนี้ ว่า การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ถึงสิ้นเดือน เม.ย. เหตุผลประการเดียว คือ ให้สามารถควบคุมโรคการแพร่ระบาดของโรคได้มีประสิทธิภาพ และได้ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป แต่เข้าใจมาตรการเคร่งครัดทำให้เกิดความไม่สะดวกในการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจ จึงได้ออกมาตรการผ่อนปรนมากขึ้น แต่ทำเป็นระยะๆ ประการสำคัญคือ ความร่วมมือของประชาชน เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินปลดล็อกหรือผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้น การผ่อนคลายให้ทำกิจกรรม ตั้งแต่ 3 พ.ค. เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ยังคงรักษาความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก

ข้อกำหนดในมาตรการผ่อนปรน อาทิ ในการเปิดร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อต้องการให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างปกติสุข แต่ยังคงมาตรการอย่างน้อย คือ รักษาระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิ ทำความสะอาดพื้นผิว จัดให้มีเจลล้างมือ หากมีมาตรการเข้มข้นขึ้นสามารถออกได้โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตีมอลล์ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ร้านอาหารเปิดได้เฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น ร้านค้าปลีกส่ง ตลาดน้ำ ตลาดนัด ยังเปิดได้ แต่ยังคงต้องมีมาตรการทำความสะอาดพื้นผิว รักษาระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้า-ออก ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม อนุญาตให้ตัด สระ ซอยผม แต่ไม่อนุญาตให้ทำสีผม เพื่อไม่ให้มีการใช้บริการนาน และไม่ให้มีโอกาสรับเชื้อมากขึ้น

ส่วนการออกกำลังกาย เปิดได้เฉพาะที่โล่งแจ้ง เช่น เทนนิส กอล์ฟ เพราะมีการถ่ายเทอากาศทำได้สะดวก แต่กีฬาประเภทอื่นอากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่นเดียวกับการเปิดสวนสาธารณะให้เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ส่วนการรำไทเก๊ก ทำได้แต่จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องพอสมควร ต้องรักษาระยะห่าง จำกัดผู้คนและเวลาทำกิจกรรม ขึ้นอยู่กับท้องถิ่นและผู้ดูแลสวนสาธารณะ ส่วนสถานพยาบาล สถานทันตกรรม เปิดบริการได้ ซึ่งไม่ได้ห้ามตั้งแต่แรก แต่มีมาตรการจำกัดเรื่องการป้องกัน การตรวจวัดอุณหภูมิ และการใช้เวลาให้น้อยที่สุด ส่วนสถานบริการที่เกี่ยวกับสัตว์สามารถเปิดได้เพราะไม่มีหลักฐานว่าติดเชื้อจากคนสู่สัตว์ และจากสัตว์สู่คน แต่ก็ยังคงรักษามาตรการต่างๆ ส่วนมาตรการบังคับปกติ คือ การห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น การจำกัดการเคลื่อนย้ายของผู้คนข้ามจังหวัดยังคงมีอยู่ และมาตรการพื้นฐานทั่วไป หากสถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนร่วมมือดีขึ้น สถิติผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวลดลง สถานการณ์บ่งชี้ว่าผู้ป่วยน้อยลง จะเปิดมาตรการผ่อนปรนระยะต่อไป

ในช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่า ข้อกำหนดให้โรงพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรม สามารถเปิดได้วันที่ 3 พ.ค. แต่คลินิกเสริมความงาม ฉีดโบทอกซ์ การทำศัลยกรรม เปิดได้หรือไม่ ชี้แจงว่า เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขไม่อนุญาต เพราะถ้าใช้เวลานานก็เสี่ยงต่อการติดโรค กำลังพิจารณาว่าจะผ่อนปรนในเฟส 2 หรือ 3 หรือไม่ ยืนยันสถานเสริมความงามยังคงไม่อนุญาต เมื่อถามว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายได้แล้วหรือไม่ ชี้แจงว่า ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ทุกร้านที่ได้รับใบอนุญาตสามารถขายได้ แต่ยังคงเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม. ถ้าเห็นว่าในพื้นที่มีการละเมิดหรือแพร่เชื้อสามารถสั่งปิดในภายหลังได้ ส่วนการซื้อสุรากลับบ้านสามารถทำได้ แต่อย่าให้เกิดลักษณะมั่วสุม เจ้าหน้าที่สามารถตักเตือนหรือดำเนินคดีได้ หากมีหลายครั้ง หลายพื้นที่ อาจจะต้องจำกัดหรืองดจำหน่ายสุราในที่สุด เพราะฉะนั้นจึงขอความร่วมมือทุกคน ห้ามดื่มสุราที่ร้าน และเมื่อกลับไปถึงที่บ้านให้ดื่มพอสมควร

เมื่อถามว่า การเดินทางกลับต่างจังหวัด แต่ละจังหวัดจะมีมาตรการอย่างไร นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า แต่ละจังหวัดยึดกอบข้อกำหนดจากส่วนกลางและคำสั่ง ศบค. เป็นหลัก ส่วนการหนักเบาขึ้นอยู่กับความเสี่ยง แต่สาระสำคัญคือ 1. รักษาประโยชน์สาธารณะ และ 2. การดูแลการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ ได้มอบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านดำเนินการ สาระสำคัญคือ ให้งดหรือชะลอเดินทางข้ามเขตจังหวัด ส่วนคนที่มีเหตุผลความจำเป็นต้องแสดงหลักฐาน แต่ทุกคนต้องตรวจคัดกรอง ณ จุดตรวจ และภูมิลำเนาจะเป็นสาระหลักในการดูแลคนพื้นที่ ส่วนจะถูกกักตัว 14 วันขึ้นอยู่กับกรณีไป ยังมีอีกหลายจังหวัด คนที่ผ่านกระบวนการกักตัวแล้วจะมีใบรับรอง อีกกลุ่มมาจากพื้นที่เสี่ยง ถ้ามีการเดินทางจริงจะต้องมีหลักฐาน ส่วนจังหวัดทางผ่านเดินทางออกจากภูเก็ต ที่ผ่านมาให้กักตัวมากกว่า 30 วัน เหมือนกับการกักตัวมาแล้ว มีใบรับรองจากเจ้าหน้าที่ และผู้ว่าฯ ภูเก็ตแจ้งให้จังหวัดปลายทางทราบ หากมีคำอธิบายอย่ากังวล แต่ให้แสดงเหตุผล สิ่งสำคัญคือ ขอให้เห็นใจเข้าใจเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ ให้ด่านตรวจโควิดพูดจาด้วยความละมุนละม่อม

เลขาธิการ สมช. ยังกล่าวเสริมว่า ไม่สนับสนุนให้เดินทางออกนอกจังหวัดด้วยวิธีการใดๆ ทั้งสิ้น ที่ประชุม ครม. ให้วันที่ 1-11 พ.ค. ที่มีวันหยุดยาวจำนวนมาก ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจห้ามลาในช่วงนี้ ระหว่างทางจะเจอมาตรการที่เข้มข้น เพื่อไม่ให้การระบาดเกินขีดความสามารถในการควบคุมดูแล