เลขาฯ สมช.แจงกิจการที่จะเปิดบริการ 3 พ.ค.นี้ ยังต้องรักษาระยะห่าง วัดอุณหภูมิ ทำความสะอาดพื้นผิว สวมหน้ากาก มีเจลล้างมือ ส่วนความเข้มข้นท้องถิ่นสามารถออกเพิ่มได้ ระบุ แบดมินตันไม่อนุญาตแบบเทนนิส เพราะอากาศถ่ายเทไม่สะดวก รำไทเก๊กในสวนจัดได้ แต่ต้องจำกัดคน เว้นระยะห่าง คลินิกเสริมความงามยังไม่ให้เปิด
วันนี้ (2 พ.ค.) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิกาคสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ว่า การผ่อนปรนจะทำเป็นระยะๆ มีการประเมินแต่ละระยะ ว่า จะสามารถผ่อนปรนได้มากหรือน้อย สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของประชาชนในการผ่อนปรนมาตรการเพิ่มขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ในวันที่ 3 พ.ค.เป็นต้นไป ที่จะเริ่มผ่อนปรน ก็ยังคงต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ก็พยายามผ่อนปรนให้ดำรงชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และทางด้านเศรษฐกิจก็คำนึงประกอบกันด้วย
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า การผ่อนปรนด้านดำเนินชีวิต เช่น 1. การเปิดร้านค้า ร้านอาหาร ในโรงแรม สนามบิน โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ หาบเร่แผงลอยต่างๆ เพื่อให้ดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขยิ่งขึ้น แต่ทั้งหมดต้องมีมาตรการกำกับ อย่างน้อยที่สุด คือ มีการเว้นระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิตามความเหมาะสม ทำความสะอาดพื้นผิวสถานประกอบการ การจัดให้มีเจลล้างมือ ส่วนมาตรการเข้มข้นขึ้นก็สามารถออกได้โดยท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตีมอลล์ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำรชีวิตประจำวัน เช่น ขายอาหารในซูเปอร์มาร์เก็ตร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ด ร้านโทรศัพท์มือถือ ที่ทำการรัฐวิสาหกิจหรือรัฐบาลในห้างนั้น หรือธนาคาร ร้านอาหารเปิดได้ แต่จะต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น ห้ามทานในสถานที่ขาย
3. ตลาด ตลาดน้ำ ตลาดนัด เปิดได้ แต่มาตรการต้องมีอยู่ คือ ทำความสะอาดพื้นผิว รักษาระยะห่าง วัดอุณหภูมิก่อนเข้าออก
4. ร้านเสริมสวย ร้านแต่งผมตัดผม ก็เปิดได้ เราคิดจากการเป็นมาตรการผ่อนคลายด้านการดำเนินชีวิต แต่ต้องถูกกำกับโดยข้อกำหนด หรือมาตรการที่ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าการแพร่ระบาดจะไม่เกิดขึ้น อนุญาตให้มีการสระ ตัด ซอยผม แต่ไม่อนุญาตเสริมสวยอื่นๆ เช่น ทำสีผม เหตุผลคืออย่าใช้เวลานานในสถานบริการเหล่านี้ การอยู่นานมีความเสี่ยงรับเชื้อมากยิ่งขึ้น และผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ต้องมีมาตรการสมควรบังคับกัน เช่น ล้างเจลล้างมือให้เห็น ใส่หน้ากาก เฟซชิลด์ ทำความสะอาดเครื่องมือ กำจัดขยะ บางมาตรการอาจใส่ลำบาก ใส่หน้ากากลำบากระหว่างตัดผมไหม ก็มีแนะนำว่า อาจผ่อนสายรัดหูลง และใช้มือจับหน้ากากไว้
5. การออกกำลังกายกลางแจ้ง เนื่องจากการระบาดของโควิด ร่างกายคนเรายังมีโรคภับไข้เจ็บอื่นรุมเร้า สิ่งจำเป็นทุกคนคือรักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรง เพราะเป็นมาตรการเชิงป้องกันสำหรับทุกโรค ร่างกายต้องแข็งแรง แข็งแรงได้ต้องไปออกกำลังกาย เลยเกิดมาตรการผ่อนคลายนี้ มีคำถามว่าทำไมอนุญาตให้เล่นเทนนิส แต่ไม่อนุญาตแบดมินตัน ว่ายน้ำ เพราะการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง เทนนิส กอล์ฟ การถ่ายเทอากาศสะดวก การติดเชื้อมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย แต่แบดมินตันกีฬาคล้ายกัน แต่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ก็ห้าม สวนสาธารณะก็เปิดด้วยเหตุผลเดียวกัน เดินได้ วิ่งได้ ปั่นจักรยานได้ แต่กิจกรรมรวมคนหมู่มาก รำไทเก๊กทำได้หรือไม่ แต่ผู้ร่วมกิจกรรมต้องพอสมควร ต้องเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ไม่ได้ห้ามเคร่งครัด อยู่ที่ท้องถิ่นที่ดูแลสวนสาธารณะจะไปกำหนดมาตรการเพิ่มเติม
6. สถานที่ให้บริการอื่น โรงพยาบาล สถานทันตกรรม สถานพยาบาลต่างๆ เปิดปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ห้ามตั้งแต่แรก ยังต้องมีมาตรการจำกัด การใส่หน้ากาก ตรวจวัดอุณหภูมิใช้เวลาให้น้อยที่สุด ส่วนร้านตัดคนสัตว์ สปา ก็ยังเปิดได้ ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมั่นได้ว่าเป็นโรคติดคนสู่สัตว์หรือสัตว์สู่คนก็ยังเปิดให้บริการ แต่ต้องรักษามาตรการปกติ รักษาระยะห่าง ตรวจอุณหภูมิ จำกัดจำนวนคนเข้า
“ที่ยังบังคับอยู่ คือ การห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. การจำกัดการเคลื่อนย้ายผู้คนข้ามจังหวัด รวมถึงการรักษาระยะห่าง วัดอุณหภูมิ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำกัดเวลา เป็นมาตรการกำกับกิจการต่อไป นี่คือ มาตรการผ่อนคลายบวกกับมาตรการบังคับทั่วไป ระยะต่อไปหากประเมินว่าสถานการณ์ดีขึ้น รับความร่วมมือจากประชาชนมากขึ้น คนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวน้อยลง หรือมีสิ่งบ่งชี้สถานการณ์ดีขึ้น ตัวเลขผู้ป่วยน้อยลงต่อเนื่อง ก็จะเปิดผ่อนปรนระยะที่ 2 3 4 ต่อไป คือ จะมีการเประเมินและเปิดอย่างระมัดระวัง” พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงการเปิดสถานพยาบาล คลินิก รวมคลินิกเสริมความงามหรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องชีวิตปกติสุขไม่น่าอนุญาต กิจกรรมวิธีคิดคือใช้เวลานานๆ มีความเสี่ยงติดโรค จากผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ อาจจะประเมินอีกทีหนึ่งควรอยู่ในเฟสสองหรือสามหรือไม่ แต่วันที่ 3 พ.ค.เป็นต้นไป สถานเสริมความงามยังห้ามต่อไป ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถขายได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. แต่ห้ามดื่มในร้าน ต้องเป็นการซื้อกลับ