วันนี้ (2 พ.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 5 และฉบับที่ 6 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญของข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 5 มีดังนี้
1. คงมาตรการเคอร์ฟิว ถ้าฝ่าฝืนลงโทษหนัก ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 4 ทุ่ม ถึง ตี 4 ตามข้อกำหนด กำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 2 แต่มีข้อยกเว้นให้บางกลุ่มอาชีพตามข้อฉบับที่ 3 และผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด เช่น ออกนอกเคหสถาน มั่วสุมชุนมุมทำกิจกรรม หรือเสนอข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดไม่เป็นความจริง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายเหล่านั้นทุกฐานความผิด และพิจารณาการขึ้นทะเบียนรับการช่วยเหลือจากรัฐ
2. ห้ามหรืองดกิจกรรมบางอย่างตามที่กฎหมายกำหนด
(1) ห้ามใช้อาคารสถานศึกษาจัดการเรียน การสอน การฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก เว้นแต่ผ่านวิธีอิเล็กทรอนิกส์
(2) ห้ามจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกัน หรือมีโอกาสติดสัมผัสได้ง่าย ซึ่งรวมถึงการประชุม การสัมมนา การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของ เว้นแต่ได้รับอนุญาต และเป็นสถานที่ที่ไม่แออัด มีมาตรการจำกัดระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เป็นต้น
(3) ห้ามผู้ใดใช้ท่าอากาศยานเพื่อการขึ้นลงของอากาศยานเว้นแต่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าทางบก น้ำ หรืออากาศ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่นายกฯ หรือผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกำหนด
(4) ให้ผู้ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสั่ง หรือกำหนดเป็นเงื่อนไขในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรว่าต้องแยกกัน กักกัน หรือคุมไว้สังเกตในสถานที่กำหนดต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว
(5) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่สามารถปิดสถานที่ต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคระบาดได้ เช่น สถานบันเทิง โรงมหรสพ สถานที่ออกกำลังกาย ห้างสรรพสินค้า
การสั่งให้เปิดสถานที่หรือกิจกรรมใด ตามข้อกำหนดฉบับต้องรอการประเมินสถานการณ์และมีข้อกำหนดให้ผ่อนคลายก่อน
3. รับรองให้คำสั่ง ตามข้อ 2 (3) (4) (5) (6) และ (7) คำสั่งของเจ้าหน้าที่ให้ถือเป็นคำสั่งตามข้อกำหนดฉบับนี้
4. การปฏิบัติศาสนกิจ หรือ ศาสนพิธีในวันสำคัญหรือตามประเพณีนิยม ให้เป็นไปตามดุลยพินิจและความรับผิดชอบของผู้ปกครองดูแลศาสนสถานนั้น
5. ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งต้องรับการตรวจคัดกรอง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค แม้จะทำให้ใช้เวลามากกว่าปกติ
สำหรับสาระสำคัญของข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 6 มีดังนี้
1. การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ ประกอบด้วย
กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต
ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรม ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย แต่ไม่รวมสถานบริการผับ บาร์ ให้เปิดโดยอาจนำกลับไปบริโภคที่อื่น หรือ หรือสามารถทำได้ได้โดยต้องจัดระเบียบการเข้าใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของราชการ ส่วนร้านอาหารหรือเครื่องดื่มซึ่งจำหน่ายสุรา ให้เปิดได้ห้ามบริโภคภายในร้าน
ข. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ด และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม แต่ร้านอาหารให้เปิดได้เฉพาะซื้อนำกลับไปบริโภคที่อื่น
ค. ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ตลาด ตลาดน้ำและตลาดนัด ให้เปิดได้โดยต้องควบคุมทางเข้าออก จัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ให้ และผู้ใช้บริการ การเว้นระยะห่างในการเลือกสินค้าและการชำระราคา
ง. ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมสำหรับบุรุษหรือสตรีให้เปิดได้เฉพาะกิจกรรมสระ ตัด ซอยผม แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
กิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ
ก. โรงพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรมหรือสถานพยาบาลทุกประเภท ที่จัดตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย เปิดได้
ข. สนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟให้เปิดได้แต่ต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันหรือเป็นการแข่งขัน ในกรณีของสโมสร คลับเฮาส์ หรือร้านอาหารในบริเวณดังกล่าวให้ปฏิบัติตาม ที่ราชการกำหนด
ค. สนามกีฬาเฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากล ผู้เล่นต้องมีระยะห่างไม่คลุกคลีกัน
ง. สวนสาธารณะ ลาน-พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬาเปิดได้เฉพาะพื้นที่โล่งแจ้ง
จ. สถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์
2. ให้เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ทุกประเภทมีหน้าที่รับผิดชอบการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ ภาชนะ และอุปกรณ์ที่ใช้ และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจ ให้คำแนะนำ หรือตักเตือนห้ามปรามได้ตลอดเวลา หากพบว่า มีการฝ่าฝืนเป็นอันตรายต่อการป้องกัน ให้เสนอผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อสั่งปิดสถานที่นั้นเฉพาะรายได้
ข้อกำหนด อาหารและเครื่องดื่ม
ร้านอาหาร หาบเร่ แผงลอย ยกเว้น สถานบริการ ผับ บาร์ เปิดได้ให้นำกลับไปกินที่บ้าน หรือจัดบริการตามข้อแนะนำ
ร้านจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เปิดได้ แต่ห้ามดื่มในร้าน
ทั้งนี้ ให้อำนาจ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม . และจังหวัด ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2 558 มีคำสั่งเข้มงวดกว่านี้ได้