พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในเดือนเมษายนนั้น เป็นมาตรการเคร่งครัดเพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการดำเนินชีวิต และเกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่างๆ สำหรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับต่อมาจะมีการผ่อนปรนตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยจะมีการประเมินผลเมื่อครบ 14 วัน ซึ่งจะยึดมาตรฐานด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ทั้งนี้ จะผ่อนปรนมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง นั้นมีคำถามว่า ทำไมกีฬาเทนนิส กอล์ฟ ทำได้ แบดมินตันทำไม่ได้ เนื่องจากกีฬาในสถานที่โล่งแจ้ง มีการถ่ายเทอากาศสะดวก มีโอกาสน้อยในการติดเชื้อ ส่วนสถานบริการเกี่ยวกับสัตว์เปิดให้บริการได้เพราะไม่มีข้อมูลว่ามีการติดเชื้อระหว่างคนกับสัตว์ ภายใต้มาตรการผ่อนคลายนั้นยังคงมาตรการบังคับอยู่คือ ช่วงเวลาเคอร์ฟิว การจำกัดการเคลื่อนย้ายขอประชาชน อย่างไรก็ตาม หากมีสิ่งบ่งชี้ว่าสถานการณ์ดีขึ้น จะมีการพิจารณาเปิดการผ่อนปรน ระยะ 2 3 4 จนครบต่อไป ซึ่งจะมีการประเมินและผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง
ในส่วนของโรงพยาบาล คลินิก สถานทันตกรรม คลินิกเสริมความงามนั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตจะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากการใช้บริการนานๆ จะเสี่ยงติดเชื้อ โดยคลินิกเสริมความงามจะพิจารณาในเฟส 2 หรือ 3 ต่อไป