“ปานเทพ” ชี้รัฐจำเป็นต้องคลายล็อกดาวน์ทั้งที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมาก เหตุมาตรการเยียวยาล้มเหลว จึงต้องลดแรงกดดัน แนะประชาชนร่วมใจมีวินัยป้องกันโรค เมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องทำให้ดีที่สุด ลั่นการเมืองหลังโควิดเปราะบางมาก รัฐบาลถูกจับตามองเข้ม หากใช้งบไม่โปร่งใส จะยิ่งเร่งปฏิกิริยาให้คนออกมาไล่
วันที่ 29 เมษายน 2563 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ประสิทธิภาพในการเยียวยา กับการคลายล็อกบนความเสี่ยง”
โดย นายปานเทพ กล่าวว่า ไทยพร้อมที่จะคลายล็อกดาวน์หรือยัง ต้องชั่งน้ำหนัก 2 เรื่อง หนึ่ง เรื่องการสาธารณสุข เรามีตัวเลขดีขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่มีตัวแปรที่ไม่ชัดเจนซ่อนอยู่ ซึ่งต้องระวัง ต้องไปแก้ไข อีกด้าน คือ เศรษฐกิจ การเยียวยาถึงตัวผู้เดือดร้อนจริงไหม เพราะถ้าการเยียวยาสอบตก ทั้งในเรื่องของงบประมาณและวิธีการ เมื่อไหร่ก็ตามที่รัฐสอบตกทั้งงบประมาณ และวิธีการ ประชาชนจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ในสภาพที่ต้องมีการกักตัวหรือปิด เศรษฐกิจทั้งระบบอย่างยาวนานต่อเนื่อง
ถ้าเป็นอย่างนี้ปัญหาจะลุกลามต่อไป ในที่สุดคนจะไม่กลัวโรค เพราะหมดหนทางทำมาหากิน สิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งรัฐผิดพลาด ตั้งแต่ปล่อยให้มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่ผีน้อย นักท่องเที่ยวต่างชาติ และผ่อนปรนให้ใช้ใบรับรองแพทย์ ทั้งที่รู้ว่ามันใช้ไม่ได้ การปิดล็อกช้า แล้วจะปิดล็อกก็ไม่เยียวยา ทำให้คนกระจายไปทั่วประเทศ การตัดสินใจช้าทำให้งบประมาณมันบานปลาย เอาไม่อยู่ จากเรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งช้ายิ่งยากต่อการจัดการ
เมื่อรัฐผิดพลาดกระทั่งขาดงบประมาณที่มากพอ และการจัดการที่ดีพอ สองเรื่องนี้ทำให้สถานการณ์ประเทศไทยไม่สามารถดำรงอยู่อย่างนี้ไปได้ยาวนาน รัฐจึงจำเป็นต้องคลายล็อกเมื่อตัวเลขทางการดีขึ้น
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า มาตรการคลายล็อกทั้งที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ ในสถานะที่รัฐจัดการเยียวยาไม่ดีพอ เราจึงไม่มีทางเลือกในสถานการณ์ปัจจุบัน มาตรการเยียวยา ตนว่าสอบตกเลย ทั้งปริมาณเงิน วิธีการ และระยะเวลา เพราะตอนนี้ยังไม่จบ ยังอุทธรณ์กันอยู่เลย ตามที่คณบดีศิริราช บอกว่า เป็นการมาตรการทุบด้วยค้อนสลับฟ้อนรำ ตนว่าไม่ใช่ แต่มันคือความล้มเหลวจากมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีทางเลือกต้องคลายล็อกดาวน์ เพื่อลดแรงกดดัน
ในขณะเดียวกัน ถ้าคลายล็อกดาวน์แล้ว รัฐสามารถจัดการให้คนอยู่ในระเบียบวินัยได้ดีไหม มีทรัพยากรในการบังคับใช้ จัดระเบียบได้ดีจริงหรือเปล่า ถ้าเกิดการติดเชื้อจากกิจการที่กลับมาเปิด ก็จะเป็นบูมเมอแรงย้อนกลับมาที่รัฐบาลอีก แต่ทั้งนี้ เป็นหน้าที่รัฐอย่างเดียวไม่พอ ถ้าอยากรอด ประชาชนทุกคนต้องช่วยกัน ใช้โซเชียลมีเดียในการแจ้งเตือน ช่วยควบคุม เพื่อไม่ให้ไปสู่การระบาดรอบใหม่ เมื่อเราไม่มีทางเลือก ก็ต้องทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า หลังโควิด รัฐบาลจะเอาอยู่ไหม นายปานเทพ กล่าวว่า ในภาวะวิกฤตต้องการหลายเรื่องพร้อมกัน การตัดสินใจเร็วจะทำให้สามารถใช้งบประมาณไม่มาก สถานการณ์จบเร็ว แต่เมื่อตัดสินใจช้า ใช้งบมาก ก็เกิดปัญหาโดยปริยาย ทั้งประสิทธิภาพ ความโปร่งใส เวลาใช้เงินมากๆ ในช่วงวิกฤต มันจะถูกจับตามองทั้งหมด แค่เพียงแค่เอาประโยชน์พวกพ้องเป็นตัวตั้ง รัฐบาลก็อยู่ยากแล้ว
ครั้งนี้ประชาชนเดือดร้อนมาก ถ้ามาตรการเยียวยาไม่ได้ผล การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ผล ไม่โปร่งใส เงินกระจุกอยู่ที่กลุ่มทุน จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ประชาชนออกมาจัดการรัฐบาล การเมืองหลังโควิดเปราะบางมาก ถ้ารัฐบาลทำดีอาจอยู่ได้ยาว ถ้าทำไม่ดีอยู่ยาก
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า หลังโรคหาย เศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นง่ายๆ เพราะสายป่านเวลาขาดแล้วนับหนึ่งยาก รัฐต้องจัดการเต็มที่ ต้องมาพร้อมทั้งหมด ทั้งจำนวนเงินที่มากพอ ประสิทธิภาพเม็ดเงินที่ทำเพื่อประชาชนไม่ใช่กลุ่มทุน และต้องโปร่งใสด้วย ซึ่งทั้งสามอย่าง ไม่ใช่ลักษณะปกติของนักการเมืองที่มาจากการซื้อสิทธิขายเสียง หรือมาจากกลุ่มทุนที่หนุนหลัง