xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” จี้รัฐปิดประเทศสกัดโควิด-19 ชี้เจ็บเร็วดีกว่ายืดเยื้อแล้วไม่รู้จะจบเมื่อไหร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปานเทพ” จี้รัฐรีบตัดสินใจประกาศระยะ 3 พร้อมกับปิดประเทศ ปิดเมือง ปิดบ้าน และประกาศภาวะฉุกเฉิน แจง 21 วันเป็นเวลาเหมาะสมในการแยกคนป่วย ชี้ ปิดแค่บางธุรกิจยิ่งทำยืดเยื้อ เพราะคนยังไปติดจากที่อื่นได้ แล้วจะเสียหายหนักไม่รู้วันสิ้นสุด ห่วงผู้ป่วยพุ่งถึงจุดที่สถานที่-บุคลากรไม่พอรับมือ จนแพทย์-พยาบาลป่วยจะยิ่งวิกฤต



วันที่ 19 มี.ค. 63 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ถึงเวลาประเทศไทย ต้องปิดประเทศสู้โควิด-19”

โดย นายปานเทพ กล่าวถึงแถลงการณ์เครือข่ายประชาชนเพื่อลดการระบาดของเชื้อ COVID-19 ซึ่งเรียกร้องให้รัฐประกาศสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เป็นระยะที่ 3 พร้อมดำเนินการปิดประเทศ ปิดเมือง ปิดบ้าน และประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นเวลา 21 วัน ว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อที่ไม่สามารถระบุต้นตอของการติดเชื้อได้อย่างชัดเจน ต้องเรียกสถานการณ์นี้ว่าเฟส 3 ตนเข้าใจเวลาปิดหรือทำอะไร ทุกคนกลัวจะได้รับผลกระทบเสียหาย แต่ขณะนี้ประเทศไทยเสียหายแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไม่ได้ มีที่หลุดมา รัฐก็เพิ่งมาสั่งปิดตามหลัง ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ายังเปิดด่านค้าขายปกติ ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ อย่าให้เกิดเหตุติดเชื้อที่ชายแดนก่อนค่อยตามปิดด่านอีกเหมือนที่ผ่านมา การระบาดของโรคจะเดินหน้าไม่มีวันหยุด ถ้าใช้มาตรการตามหลังจะไม่มีวันไล่ทัน

การปิดเฉพาะกลุ่ม เฉพาะอาชีพ ไม่ได้ปิดทั้งหมด มันจะเกิดความลักลั่นของสถานการณ์ ธุรกิจจำนวนมากเดือดร้อนหนัก หลายคนตกงาน ไม่มีรายได้ อันตรายมากถ้าไม่ใช้มาตรการเด็ดขาด คนเหล่านี้จะทำอย่างไร

ถ้าใช้มาตรการเข้มข้น เจ็บรวดเร็วแล้วจบ ถ้ายังปิดไม่หมด คนที่ถูกปิดจะถูกปิดยาวไม่มีกำหนด ยังไม่รู้นานแค่ไหน เพราะยังปล่อยให้มีกระบวนการสัมผัสสารคัดหลั่งจากสถานที่อื่น เช่น บ่อนเถื่อน รัฐไม่มีอำนาจไปสั่งปิด ข้าราชการก็ยังต้องทำงานอยู่ ต้องเดินทาง ทานอาหารกลางวัน เพิ่มโอกาสเจอคนแออัด เราจะไม่สามารถหยุดปริมาณผู้ติดเชื้อได้

“ตอนนี้เรามีการรายงานหาต้นตอการติดเชื้อไม่ได้ แต่พยายามให้เป็นเฟส 2 เพราะเฟส 3 เมื่อไหร่รัฐต้องรับผิดชอบงบประมาณในสิ่งที่ตัดสินใจกับประชาชนด้วย สมมติสั่งให้หยุดงาน ก็ต้องมีคนดูแลจัดการไม่ใช่ปล่อยให้หมดอาชีพแบบไร้ทิศทางแบบนี้ ปิดสถานที่ คนปิดเดือดร้อนหนัก แต่เดือดร้อนไม่สำคัญเท่านานเท่าไหร่ อีกฝั่งนึงปิด อีกฝั่งนึงแพร่ แล้วค่อยตามไปปิด แบบนี้ไม่จบในเดือน พ.ค.” นายปานเทพ กล่าว

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า รายงานล่าสุดเชื้อโควิด-19 เมื่อสัมผัสในพื้นที่เรียบ พลาสติก หรือ สเตนเลส สามารถมีอายุได้ถึง 2-3 วัน และถ้าเทียบกับซาร์ส สอนให้รู้ว่าที่อุณหภูมิ 22-26 องศา และความชื้นสัมพัทธ์ 40-45 เปอร์เซ็นต์ เชื้ออยู่ได้ 5 วัน แต่ถ้าร้อน 38 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ 90-95 เปอร์เซ็นต์ เชื้ออยู่ไม่ได้เลยในที่ร้อนชื้น แต่อยู่ในพื้นที่มีเครื่องปรับอากาศได้นาน

นายปานเทพ กล่าวว่า บทเรียนที่ทำให้มีความหวังว่าปิดระยะสั้นเราจะเอาชนะได้ คือ เรายังมีผู้ป่วยไม่เยอะเป็นพันๆ คน ถ้าถึงตอนนั้นแล้วปิดจะยืดเยื้อ ยอดผู้ป่วยที่ร้อยต้นๆ ถ้าทำแต่เนิ่นๆ มีโอกาสหยุดได้เร็ว

เชื้ออยู่ในพื้นที่ต่างๆ ได้ไม่เกิน 5 วัน ถ้าไม่มีคนไปยุ่งอะไรกับมันเลย แล้วผนวกกับกระบวนการบิ๊กคลีนนิ่ง ตนเห็นทหารเริ่มปฏิบัติการ แต่ทำบนถนน ซึ่งข้างนอกอาคารไม่ใช่ปัญหาเพราะอากาศร้อนเชื้ออยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ในอาคารต่างหากที่เรื่องใหญ่ โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ

ระยะฟักตัว 14 วัน บวก 7 วันระยะแพร่เชื้อ นี่คือ ที่มาของ 21 วัน คนที่ติดเชื้อก็จะเริ่มแยกแยะออก คนไหนป่วยต้องถูกกักบริเวณ คนไม่ป่วยจะได้ถูกแยกออกมา แล้ว 21 วันมีโอกาสที่หลายคนหายป่วยเอง แต่ขณะรักษาตัวอยู่ที่บ้าน รัฐต้องคอยติดตามให้ความรู้

หน่วยงานราชการที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคปิดไปเลยตอนนี้ คงไว้เฉพาะที่เกี่ยวข้อง ประกาศภาวะฉุกเฉินก็จำเป็นเพื่อไม่ให้เดินทางเกิน 5 คน ปิดประเทศเพื่อไม่ให้เอาโรคเข้ามาในประเทศ คนป่วยไม่ต้องมาโรงพยาบาล แต่ชุดตรวจต้องทั่วถึง โรงพยาบาลไว้สำหรับผู้ป่วยหนักเท่านั้น

นายปานเทพ กล่าวว่า น่าเป็นห่วง งานวิจัยที่เพิ่งออกมา ไวรัสโควิด-19 เกิดฟุ้งกระจายในอากาศ (airborne) ได้ ซึ่งปัญหาใหญ่กว่าหยดละอองเสมหะ (droplet) ซึ่งตนได้ถาม ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ท่านบอกว่าแม้ไอจามก็ยังเป็นละอองเสมหะ ยังไม่ฟุ้งกระจายในอากาศ แต่จะเกิดได้ในกรณีที่ใช้เครื่องดูดเสมหะ เพราะมันจะเปลี่ยนอนุภาคให้เป็นละอองฟุ้งกระจายที่ห้องในโรงพยาบาล ซึ่งต้องทำในห้องแรงดันบรรยากาศต่ำ เพื่อรองรับการดูดเสมหะไม่ให้ฟุ้งกระจาย แต่เราไม่มีสถานที่รองรับผู้ป่วยหนักได้มากพอ นี่คือ วิกฤต เมื่อไหร่ที่หมอพยาบาลป่วย เราจะรับมือไม่ได้ ถ้าช้ากว่านี้

นายปานเทพ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ทีมหมอรอบข้างนายกฯไม่มีใครเห็นต่างจากนายกฯ ไม่เหมือนหมอธีระวัฒน์ ซึ่งหมอธีคือนักรบคนที่อยู่กับทีมงานของ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เอาชนะไข้หวัดนกด้วยการยืนหยัดพูดความจริงจนรอด ทำให้หมอคนอื่นที่ไม่ผ่านสงครามการระบาดของโรคจะมองว่าหมอธีระวัฒน์ฮาร์ดคอร์ไปหรือเปล่า

ตนเสียดายมาก เมื่อนายกฯไม่ได้ความเห็นที่แตกต่าง จะไม่มีความเห็นที่สอง นายกฯไม่อยากปิดประเทศ คนอื่นก็ได้ทำให้ แล้วตัวเลขก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วสงสัยมากตัวเลขคนหายป่วยน้อยมาก เราถูกรักษาด้วยอะไร ข้อเท็จจริงคือยาไม่พอ อุปกรณ์ ความพร้อม ไม่พอ








กำลังโหลดความคิดเห็น