xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.แจงเว้นช่วงให้ขายเหล้า-เบียร์ ยังไม่สรุป มท.กำลังถก คาดผ่อนคลายมาตรการชัดเจนก่อน 1 พ.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค. แถลงตัวเลขโควิด-19 ต่ำสิบต่อเนื่อง สำรวจพบเริ่มรักษาระยะห่างน้อยลง แจงข่าวงดขายเหล้าแต่เปิดช่องให้ซื้อได้ ยังไม่มีข้อสรุป เป็นเรื่องของมหาดไทย ส่วนการผ่อนคลายสถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ หวั่นเกิดติดเชื้อระลอก 2-3 ให้คณะทำงานไปช่วยกันคิด คาดจะได้เห็นภาพก่อน 1 พ.ค.

วันนี้ (29 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน ระบุว่า ผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 9 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,947 ราย ใน 68 จังหวัด หายป่วยแล้ว 13 ราย หายป่วยสะสม 2,665 ราย อายุเฉลี่ย 30-39 ปี สูงที่สุด 20-29 ปี รักษาอยู่ 228 ราย ลดลง 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ สะสมรวม 54 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 9 ราย มาจากสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 6 ราย (กทม. 3 ราย ภูเก็ต 3 ราย พบมาจากครอบครัวเดียวกัน 2 ราย) บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย กำลังสอบสวนโรค 1 จังหวัดที่มีผู้ป่วยรายใหม่คือ ภูเก็ต 4 ราย กทม. 3 ราย สมุทรปราการ 2 ราย พบจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมาเพิ่มเติม ได้แก่ สระบุรี ศรีสะเกษ หนองบัวลำภู

ที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มผู้ป่วยเด็ก กรมควบคุมโรครายงานว่า ช่วงอายุ 0-14 ปี มี 88 ราย คิดเป็น 3% ไม่พบผู้เสียชีวิต ต่ำสุด 1 เดือน เฉลี่ย 0-4 ขวบ เด็กเล็ก เด็กประถมศึกษา ไม่ต่างกัน ส่วนใหญ่เกิดจากสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน มาจากพ่อแม่ ผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมบ้าน และญาติอื่นๆ นอกนั้นกลับจากต่างประเทศ และไปยังแหล่งชุมชน 3 จังหวัดแรก ภูเก็ต ยะลา และปัตตานี ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยยืนยัน โควิด-19 ไม่ได้ติดเชื้อผ่านทางให้นมลูก แนะป้องกันการให้นมลูก ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง โดยไม่แนะนำให้ดื่มนมผง เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และเด็กจะไม่มีภูมิคุ้มกัน หากมีปัญหาขอให้ประสานบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข

ส่วนกรมสุขภาพจิต รายงานผลสำรวจ พบมีความระมัดระวังในการรักษาระยะห่างดี แต่พบคนที่ไม่ทำตามเพิ่มทั้งที่ยังไม่ผ่อนปรน ส่วนการล้างมือพบให้ความสำคัญดีขึ้น ส่วนหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าเมื่อไปในที่ชุมชนถือว่าดีมาก

สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,138,190 ราย รักษาตัว 56,965 ราย รักษาหายแล้ว 955,188 ราย เสียชีวิต 21,974 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ป่วยสะสม 1,035,765 ราย เสียชีวิตสะสม 59,266 ราย เฉพาะวัน 2,469 ราย รองลงมา สเปน อิตาลี ส่วนผู้เสียชีวิตอันดับสอง อังกฤษ และอันดับ 2 บราซิล ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 59 กลุ่มประเทศเอเชียพบอินเดียมากที่สุด รองลงมาสิงคโปร์ ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ถ้าบ้านเราดี แต่สถานการณ์โลกไม่ดี เรายังต้องตรึงกันอยู่

การนำคนไทยกลับบ้าน วันนี้จะมีจากมุมไบ ประเทศอินเดีย 189 คน ส่วนวันพรุ่งนี้จะมาจากรัสเซีย ศรีลังกา โดยสรุปมีคนไทยกลับจากต่างประเทศรวม 22 ประเทศ 2,981 คน ส่วนทางบกก็มีรายงานคนที่เข้ามาผ่านชายแดน 372 คน แบ่งออกเป็นมาเลเซีย 364 คน เมียนมา 3 คน ลาว 2 คน และกัมพูชา 3 คน ส่วนการกระทำความผิดในช่วงเวลาเคอร์ฟิว พบชุมนุมมั่วสุมลดลงเหลือ 79 ราย ส่วนมากเป็นการเล่นพนัน ส่วนการออกนอกเคหสถานเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 589 ราย พบมากที่สุดในกรุงเทพฯ ปทุมธานี ปัตตานี สมุทรสาคร ภูเก็ต และ สมุทรปราการ

ในช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่า การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีข่าวว่าจะขยายเวลางดจำหน่ายวันที่ 3 พ.ค. เท่ากับว่า จะให้วันที่ 1-2 พ.ค. เว้นระยะให้ขายได้ใช่หรือไม่ ยืนยันว่ายังไม่มีข้อสรุป ตรวจสอบไปยังกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้กำลังพูดคุยกันอยู่ ซึ่งการประกาศการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประกาศของแต่ละจังหวัด ที่สุดแล้วงดขายทุกจังหวัด ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บช่วงสงกรานต์ลดลง ขณะนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดว่า ประกาศหรือข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่านายกฯ จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ขอให้จังหวัดถือปฏิบัติประกาศโดยเคร่งครัด การออกคำสั่งให้รอการสั่งการเชิงนโยบายจาก ศบค. ก่อนเพื่อให้เกิดเอกภาพพร้อมกันทั่วประเทศ และมีกฎหมายรองรับ แต่คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีข้อสรุป อาจจะมีรายละเอียดต้องดูแลอย่างละเอียด

การผ่อนคลายมาตรการ ตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศลดลงถือว่าคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ และมาตรการผ่อนคลายเป็นอย่างไร ชี้แจงว่า แม้จะผ่อนคลายลงแต่ยังวางใจไม่ได้ มาตรการควบคุมเชื้อได้ดีขึ้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน แต่บางประเทศผ่อนปรนแล้วเกิดการติดเชื้อระลอกสองและสาม จึงต้องทำอย่างระมัดระวังเพราะสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น ผอ.ศบค. ใช้เวลาเรื่องนี้พอสมควร โดยให้คณะทำงานไปช่วยกันคิด หามาตรการและดูผลกระทบ โดยเรื่องสุขภาพต้องมาก่อน ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจตามมา คาดว่าจะได้เห็นภาพก่อนวันที่ 1 พ.ค.นี้ ข่าวที่ออกมาจะต้องออกจาก ศบค. ถึงจะยืนยัน ซึ่งจะแจ้งให้ทราบ

ส่วนบรรดาร้านอาหาร ถ้าเริ่มกลับมาเปิดได้จะขอคำแนะนำอย่างไร ชี้แจงว่า ผู้ประกอบการต้องยึดหลัก กินร้อน ช้อนส่วนตัว ล้างมือ หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่าง รวมทั้งการสัมผัส จะมีข้อกำหนดปลีกย่อยของผู้ประกอบการ ซึ่งสมาคม ชมรมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง กำลังเตรียมการกันอยู่ เพื่อให้ปรับสู่ชีวิตวิถีใหม่ ส่วนผู้ที่จะมาใช้บริการ จะต้องปรับเพื่อให้สอดคล้องกัน ทั้งสองส่วนจะต้องไปพร้อมกัน ถ้ายอมรับกติกาและชีวิตวิถีใหม่จะทำให้ห่างไกลจากการติดเชื้อได้ ส่วนการใช้บริการสถานที่ต่างๆ จะมีการวัดอุณหภูมิที่หน้าผากรู้สึกไม่สบายใจ จะใช้การวัดอุณหภูมิที่ข้อมือทดแทนเหมือนต่างประเทศได้หรือไม่ ชี้แจงว่า อุณหภูมิที่มือจะเย็นกว่าปกติ แต่หน้าผากยังคงอยู่ การวัดที่หน้ากากจะเป็นส่วนที่อุณหภูมิใกล้เคียงความเป็นจริง หากวัดที่ข้อมือจะกลายเป็นว่าไม่พบว่ามีคนไข้หรือพบน้อยมาก

เมื่อถามว่า การคงวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่อเนื่อง 4 วัน จำเป็นต้องคุมเข้มเพื่อควบคุมการเดินทางระหว่างจังหวัดหรือไม่ ชี้แจงว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข้อหนึ่งคือการชะลอหรืองดการเดินทางข้ามจังหวัด จึงต้องขอความร่วมมือ อีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวยังปิดอยู่ และเพิ่มความเสี่ยงเพราะยังมีการแพร่ระบาดอยู่ การอยู่บ้านจึงจำเป็นที่สุด ส่วนกรณีมีข่าวว่านักท่องเที่ยวจีนจะมาประเทศไทยในเดือน พ.ค. เป็นไปได้หรือไม่ ชี้แจงว่าเป็นไปได้ยาก เพราะการขยายเวลาห้ามอากาศยานบินเข้าประเทศไทยชั่วคราวขยายออกไปถึง 31 พ.ค. ตอนนี้ชัดเจนว่านักท่องเที่ยวมาไม่ได้ พยายามดูแลคนในประเทศก่อน การท่องเที่ยวไว้ที่หลัง

ในตอนท้าย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การผ่อนปรนที่จะเกิดขึ้นต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการหลายส่วนหลายฝ่าย มีความต้องการเปิดให้บริการ ซึ่งมาตรการต่างๆ ต้องคิดกันอย่างถี่ถ้วน ขอให้ทำความเข้าใจและเข้าใจในการผ่อนปรนที่เกิดขึ้น เพื่อให้ตัวเลขผู้ป่วยที่ลดลงคงไว้ได้นานที่สุด






















กำลังโหลดความคิดเห็น