พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 9 ราย ต่ำสิบเป็นวันที่ 3 ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยรวม 2,947 ราย หายกลับบ้าน 2,665 ราย กทม.เจอเพิ่ม 3 ราย ภูเก็ตเจอคนในครอบครัวป่วยรวม 2 คน ไม่มีผู้ป่วยใหม่ช่วง 28 วัน เพิ่มเป็น 16 จังหวัด เด็ก 0-14 ปี ติดเชื้อ 3% ต่ำสุด 1 เดือน ไม่มีดับ อาการไม่รุนแรง ส่วนใหญ่ติดจากพ่อแม่ ย้ำแม่ติดเชื้อยังให้นมลูกได้ แต่ต้องป้องกัน
วันนี้ (29 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่จำนวน 9 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 13 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 2,947 ราย กลับบ้านรวม 2,665 ราย เสียชีวิตรวม 54 ราย ยังรักษาใน รพ. 228 ราย ถือว่าต่ำกว่าสิบรายเป็นวันที่ 3
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 9 ราย ได้แก่ 1. กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 6 ราย ที่ กทม. 3 ราย ภูเก็ต 3 คน โดยอยู่ในครอบครัวเดียวกันถึง 2 คน 2. อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 1 คน 3. บุคลากรทางการแพทย์ 2 คน ทั้งนี้ กระจายอยู่ใน ภูเก็ต 4 คน กทม. 3 คน และสมุทรปราการ 2 คน จังหวัดที่ไม่มีรายงานเลยมี 9 จังหวัดตามเดิม โดยไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วัน มี 16 จังหวัด มีเพิ่มเติม คือ สระบุรี ศรีสะเกษ และหนองบัวลำภู ส่วนไม่มีผู้ป่วย 14 วันมี 35 จังหวัด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุ 0-14 ปี พบว่า มี 88 ราย คิดเป็น 3% ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย เป็นคนไทย 90% อายุต่ำสุดคือ 1 เดือน เฉลี่ยอายุช่วง 0-4 ขวบ ส่วนเด็กเล็ก เด็กวัยปฐม และอายุ 10-14 ปี มีพอๆ กันไม่มีความแตกต่าง สำหรับการติดมาจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 85.4% ประวัติเดินทางจากต่างประเทศ 3.4% จังหวัดที่พบมากคือ ภูเก็ต ยะลา และ ปัตตานี ติดจากพ่อแม่มากที่สุด 45% บุคคลร่วมบ้าน 24% ญาติ 8% ซึ่งพ่อแม่จำเป็นต้องดูแลลูกใกล้ชิดนั้น จากมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย รายงานว่า แม่ที่ติดเชื้อหรือลูกติดเชื้อนั้น การติดเชื้อไม่ได้ผ่านน้ำนมแม่ แม่ป่วยให้นมลูกได้ แต่ต้องป้องกันหลายวิธี อาจปั๊มนมไว้ แล้วให้นมลูก หรือให้เองแต่ต้องใส่หน้ากากอนามัยอย่างดี เน้นล้างมือและเว้นระยะห่าง ส่วนการกินนมผงแทนนั่้นไม่แนะนำ อย่าเปลี่ยนจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย เด็กไม่ได้ภูมิคุ้มกัน แต่หากแม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ขอให้ประสานบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจะมีทีมเข้าไปช่วยเหลือ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตรายงานข้อมูลว่า ชุดพฤติกรรมของคนไทยตอนนี้เป็นเช่นไร โดยสำรวจทั้งบุคลากรทางการแพทย์และคนทั่วไป ช่วงกลางเดือน มี.ค.และต้น เม.ย.นั้น พบว่า การเว้นระยะห่าง ประชาชนทั่วไปจาก 86.9% ลดลงเป็น 82.4% ยังไม่ถึงช่วงผ่อนปรนก็ผ่อนกันแล้ว ขอนำเรียนว่าให้ช่วยกัน การเว้นระยะห่างสำคัญสูงมาก ส่วนการล้างมือ คนทั่วไป 83.6% เพิ่มเป็น 87.5% ขณะที่การใส่หน้ากากอนามัยและหน้าการผ้าเมื่อไปสถานที่ชุมชนก็เพิ่มขึ้น โดยผู้หญิงจาก 78.2% เป็น 97.4% ผู้ชาย 70% เป็น 96.8%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันที่ 30 เม.ย. จะมีเดินทางกลับมาจากรัสเซีย 15 คน ศรีลังกา และ มัลดีฟส์ 40 คน และอินเดีย 170 คน สำหรับการเข้าผ่านแดนทางบกเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ลงทะเบียนไว้ 364 คน เดินทางเข้ารวม 372 คน