“”ทนง ขันทอง” ชี้ หากราคาน้ำมันดิบลดต่ำกว่า 20 เหรียญ บริษัทน้ำมันของสหรัฐฯราว 300 แห่ง จะล้มละลาย ระบุ โควิด-19 ทำอเมริกาใช้เงินอุ้มเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก สะท้อนที่ผ่านมาเปราะบางอยู่แล้ว ดูสวยหรูจากฟองสบู่ทั้งนั้น ลั่นทางออกเลือนราง เพราะไม่รู้จะเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่
วันที่ 22 เมษายน 2563 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ และ ผอ.สื่อสาร บลจ.บัวหลวง ร่วมสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ยุคน้ำมันล้นโลก ราคาที่สหรัฐต้องจ่าย!”
จากปรากฏการณ์สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เทกซัส (WTI) ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดตลาดเมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ด้วยราคาที่ทรุดตัวติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การค้าน้ำมัน โดยร่วงลง 55.90 ดอลลาร์ หรือ 306% ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล นายทนง ได้กล่าวว่า ตอนนี้น้ำมันล้นตลาด เพราะความต้องการใช้น้ำมันลดลงมาก เนื่องจากการชัตดาวน์ประเทศ จากโรคโควิด-19 น้ำมันมีแต่ผลิตออกมาจนล้นตลาด
ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ต้องจับตาดูว่าจะดีขึ้นมั้ย หากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อ ไม่แน่ชัดจะชัตดาวน์ถึงเมื่อไหร่ ทรัมป์อยากให้ยกเลิกชัตดาวน์ 1 พ.ค. แต่ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ไม่อยากรีบ เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่กลับคืนสู่ปกติ การใช้น้ำมันก็ไม่กลับมาปกติ ตอนนี้บริษัทน้ำมันล้มละลายกันเป็นแถว ราคาน้ำมันดิบ ถ้าลงต่ำกว่า 20 เหรียญสหรัฐฯ อีกไม่นาน 200-300 บริษัทผู้ผลิตน้ำมันที่เป็นอิสระ ของอเมริกาต้องล้มละลายอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะราคาต่ำเกินไป ทุกหยดที่ปั๊มขึ้นมาจะขาดทุน สถานการณ์น้ำมันตอนนี้ถือว่าแย่มาก แม้ว่าทรัมป์ประกาศจะเข้ามาช่วยพยุง แต่ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ถาวรได้ในตอนนี้
นายทนง กล่าวอีกว่า โควิด-19 ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่เจ็บหนักที่สุดในโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นฟองสบู่มากที่สุดในโลกช่วงที่ผ่านมา ทรัมป์เคยคุยโวว่า สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจดีที่สุด ตัวเลขว่างงานต่ำ จีดีพีไปได้ดี หุ้นพุ่ง แต่ไปๆ มาๆ เจอโควิด สหรัฐฯกลายเป็นประเทศที่ต้องใช้เงินอุ้มเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก เพราะฟองสบู่ของสหรัฐฯแตก การเติบโตของเศรษฐกิจ เป็นการใช้เงินในอนาคตทั้งนั้นเลย
ที่สำคัญ เฟดต้องพิมพ์เงิน จากช่วงปลายปีที่แล้วไปถึงสิ้นปีนี้ อาจจะต้องเพิ่มการพิมพ์เงินประมาณ 6 ล้านล้านเหรียญ หรือเกือบจะ 200 ล้านล้านบาท ดูญี่ปุ่นใช้ประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญ ส่วนไทยคิดเป็นดอลลาร์ ประมาณ 7 หมื่นล้านเหรียญ ยิ่งใช้เงินเยอะจากผลกระทบ ก็สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีความเปราะบางอยู่แล้ว ที่โตมาทั้งหมดก็มาจากฟองสบู่ ไปดูจีน ไม่ได้ประกาศแพกเกจอะไรเป็นพิเศษ ทั้งที่จีนก็ได้รับผลกระทบโควิดมาก
เมื่อถามถึงทางออกของอเมริกา เรื่องเศรษฐกิจและน้ำมัน มีวิธีใดได้บ้าง นายทนง กล่าวว่า คงยาก เนื่องจากไม่รู้จะต่อติดอย่างไรดี จะเลิกชัตดาวน์เต็มที่เมื่อไหร่ อย่าลืม ตัวหลักที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจโลก คือ เรื่องการบินระหว่างประเทศ ต้องสู่ภาวะปกติ แต่ตัวนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าโลกเราจะสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่
และสำคัญ ที่ระบบ Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน) มันล่ม เพราะโรงงานจีนปิด เมื่อจีนไม่ผลิต พวกที่เป็นซัปพลายเออร์ก็แย่ตามกันหมด เม็ดเงินหายไปประมาณ 30 ล้านล้านเหรียญ ตัวนี้พอหายไป จีดีพีไตรมาส 2 ติดลบทั่วโลก ต้องรอดูไตรมาส 3 จะเด้งขึ้นได้ไหม แต่ถึงได้ก็คงไม่มาก เพราะกว่าระบบขนส่งของจีนจะกลับมาเหมือนเดิม
ส่วนราคาทองคำ นายทนง กล่าวว่า น่าจะยังไปได้ดี เพราะธนาคารกลางต่างๆ ดำเนินนโยบายดอกเบี้ย 0% เงินแทบจะไร้ค่า เอาไปฝากแบงก์ ก็ไม่รู้ต่อไปจะโดนชาร์จรึเปล่า หุ้นก็เสี่ยงสูง ช่วงนี้ผันผวนมาก ฉะนั้น ทองมีโอกาสขึ้น น่าไปได้ดีในระยะ 1-2 ปีขึ้นไป