xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ทองคำขึ้นได้แต่ไม่มาก หุ้นพลังงานน่าสน-กองน้ำมันเสี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คาดราคาทองคำอัปไซด์ไม่มากทรงตัวระดับนี้ไปอีก 1 ปีหากการแพร่ระบาดของไวรัสคลี่คลาย แต่ยังต้องจับตาถ้ามีระลอก 2 ปีหน้า หรือเฟดอัดฉีดเงินเข้าระบบอีกราคาทองจะปรับขึ้นได้ ส่วนน้ำมันยังต้องรอเศรษฐกิจฟื้น แก้ปัญหาไวรัสจบหนุนความต้องการใช้ฟื้นตัว แนะลงทุนสินทรัพย์อื่นเหตุเสี่ยงต่ำและซับซ้อนน้อยกว่า ชูหุ้นพลังงาน ทองคำ และกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัลเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มของราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับ 2 เหตุการณ์หลัก คือ ช่วงภาวะวิกฤตต่างๆ และภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งปัจจุบันการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำมาจากภาวะวิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนในทองคำถือเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง และสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรมีอยู่ในพอร์ตประมาณ 5-10% ส่วนแนวโน้มของราคาทองคำต่อจากนี้คาดว่ามีส่วนต่างของราคาที่จะปรับขึ้นได้อีกไม่มากนัก หากพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยของเฟดซึ่งอยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ตาม หากการระบาดของเชื้อไวรัสยังยืดเยื้อต่อไป หรือเกิดระลอกใหม่ในช่วงต้นปีหน้า หรือมีการเสริมสภาพคล่องด้วยวิธีอื่น จะส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำในลำดับถัดไปได้ ซึ่งแนวโน้มของราคายังคงมีความผันผวน และมีโอกาสที่จะปรับลงได้หลังจากผ่านพ้นวิฤตการแพร่ระบาดของไวรัสเช่นกัน

"ตามปกติวิธีดูราคาทองหลักๆ จะมาจากดอกเบี้ย ซึ่งรอบนี้เมื่อดูดอกเบี้ยเฟดแล้วทองคงปรับตัวขึ้นได้อีกไม่มากเพราะเฟดลดดอกเบี้ยลงมาต่ำมากแล้ว และอีกเรื่องที่ต้องดูประกอบกันตอนนี้คือวิกฤตโควิด ถ้าต้นปีหน้ากลับมาระบาดพร้อมกับไข้หวัดใหญ่ หรือสถานการณ์ปัจจุบันยืดเยื้อเชื่อว่าราคาทองคงปรับตัวขึ้นไปได้ ส่วนจะปรับตัวลงหลังจากขึ้นมาสูงแล้วหรือไม่คงต้องดูว่าเรื่องไวรัสจะจบได้ระดับไหน เพราะจากวิกฤตในอดีตใช้เวลาประมาณ 1 ปีราคาทองคำจะเริ่มปรับตัวลดลงบ้าง ซึ่งถ้ารอบนี้เกิดมีวัคซีนอาจใช้เวลาสัก 6 เดือน ฉะนั้นราคาทองคำน่าจะอยู่ในระดับนี้ไปอีกประมาณ 1 ปีเหมือนกัน"

ขณะที่ราคาน้ำมันประเมินว่าคงต้องรอเศรษฐกิจฟื้นในปีหน้า ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าราคาจะกลับไปอยู่ที่ระดับ 35 ดอลลาร์สหรัฐหากสามารถแก้ปัญหากำลังการผลิตที่ล้นตลาดอยู่ขณะนี้ได้ โดยโอเปกตั้งเป้าหมายในการแก้ปัญหาปริมาณการผลิตที่เกินอยู่ให้ได้ภายในปีนี้

"โอเปกตั้งเป้าลดกำลังการผลิตที่เกินอยู่ประมาณ 20% ให้ได้ภายในปีนี้ แต่ยังมีปัจจัยที่กดดันอีกด้านคือการเมืองของประเทศผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งพยายามกดดันด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อกดดันผู้ค้ารายเล็กออกจากตลาด ซึ่งคงต้องจับตาดูว่าผลสรุปจะออกมาอย่างไร รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในภาวะถดถอย" นายนาวินกล่าว

นายณัฎฐะ มหัทธนา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำมันสะท้อนมาจากการผลิตที่ล้นตลาด ซึ่งราคาสะท้อนจากการปรับลดลงของเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในเดือนมิถุนายนยังอยู่ที่ระดับ 20 กว่าดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดจากความคาดหวังในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส และทำให้การดำเนินเศรษฐกิจทยอยกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

"การลงทุนในกองทุนน้ำมันยังคงมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะนอกจากความเสี่ยงของภาวะการซื้อขายในตลาดแล้ว ตัวสินค้าซึ่งเป็นการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีความซับซ้อนถือเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ซึ่งหากเป็นการลงทุนในสัญญาซื้อขายระยะสั้นก็จะได้รับผลกระทบทันทีหากสถานการณ์ในปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขได้ตามที่คาดหวัง แต่ถ้าเป็นสัญญาระยะยาวก็จะมีผลต่างกันออกไป โดยเบื้องต้นอยากแนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นพลังงานมากว่า เพราะหุ้นกลุ่มนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพลังงานอย่างเดียว ยังเกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก และธุรกิจอื่นอีกด้วย" นายณัฎฐะกล่าว

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด บริษัทอยากแนะน้ำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในธุรกิจที่สามารถอยู่รอดในยุคปัจจุบัน และธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และการลงทนุในทองคำก็ถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น