กระทรวงสาธารณสุขประกาศ ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า ห้ามขายเจลล้างมือที่ผสมแอลกอฮอล์เข้มข้นต่ำกว่า 70% หลังปลดล็อกให้เป็นเครื่องสำอางต่อไปได้ แก้ปัญหาของขาดช่วงการระบาดโรคโควิด-19
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. 2563 ซึ่งลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ความว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการเครื่องสำอาง ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทำความสะอาดมือโดยไม่ใช้น้ำ ซึ่งมีความเข้มข้นของเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล (ethyl alcohol หรือ ethanol) ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือไอโซโพรพานอล (isopropyl alcohol หรือ isopropanol) หรือเอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือเอ็น-โพรพานอล (n-propyl alcohol หรือ n-propanol) เพียงสารเดียว หรือผสมรวมกันอยู่ต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร (volume by volume) เป็นเครื่องสำอาง ที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย
ข้อ 2 ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสาระสำคัญของประกาศดังกล่าว กำหนดห้ามไม่ให้ผลิต นำเข้า หรือขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์ผสมรวมกันต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร หลังจากในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีบางผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็นส่วนผสมต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร ทำให้ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ และยังทำให้เชื้อทนต่อแอลกอฮอล์ เกิดเชื้อดื้อยา เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขในวงกว้าง อีกทั้งผู้บริโภคที่นำไปใช้ เข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ จึงมีการนำไปใช้ตามห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หรือโรงพยาบาลเพื่อป้องกันโรคติดต่อต่างๆ ซึ่งล่าสุดเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ต้องมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์เกิน 70% จึงจะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้
ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ พ.ศ. 2562 เพื่อให้แอลกอฮอล์เจลยังคงสถานะเป็นเครื่องสำอางเหมือนเดิมต่อไป โดยไม่ต้องมาดำเนินการปรับเปลี่ยนสถานะเป็นเครื่องมือแพทย์ หลังจากเคยออกประกาศให้เจลล้างมือเป็นเครื่องมือแพทย์ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2562 โดยให้มีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน หรือวันที่ 11 มี.ค. ส่งผลทำให้โรงงานเครื่องสำอางที่เคยผลิตแอลกอฮอล์ล้างมือกว่าครึ่งหนึ่ง ได้หยุดการผลิตไปตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา เพราะไม่มีใบอนุญาตผลิตเครื่องมือแพทย์ เกิดปัญหาสินค้ามีไม่เพียงพอ ขาดตลาดในทันที สินค้าที่มีอยู่ปรับราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะอยู่ในช่วงที่มีความต้องการสูง กระทั่ง อย. ต้องออกมาปลดล็อกดังกล่าว
อ่านประกอบ : อย.ฉีกประกาศ “เจลล้างมือ” เครื่องมือแพทย์ กลับมาเป็น “เครื่องสำอาง” แก้ปัญหาสินค้าขาดตลาด
“อนุทิน” สั่งยกเลิกประกาศ “เจลแอลกอฮอล์” เป็นเครื่องมือแพทย์ กลับสู่เครื่องสำอาง หวังผลิตพอสู้โควิด-19
อภ.ยันเจลแอลกอฮอล์ไม่ขาดแน่ ขออย่ากักตุน ผลิตได้ 4 แสนหลอดต่อเดือน ห้ามขายเกิน 24 บาท
เตรียมขาดตลาด “แอลกอฮอล์ 99.9%” วันเดียวราคาพุ่ง 3 เท่า หลังถูกจัดให้เป็น “เครื่องมือแพทย์”