ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง วิเคราะห์ “อิหร่าน” ชำระแค้นสหรัฐฯ เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เน้นโจมตีฐานทัพอเมริกาในตะวันออกกลาง ชี้การชักธงสีเลือดเป็นจิตวิทยาปลุกความแค้นให้อยู่นาน เชื่อจากนี้ไป “ทรัมป์” ต้องระวังตัวตกเป็นเป้าสังหารตลอดชีวิตแม้พ้นตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม
วันที่ 8 ม.ค.63 ผศ.ดร.มาโนชญ์ อารีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “สหรัฐฯ-อิหร่าน วัดพลังแค้นนี้ต้องชำระ!”
ดร.มาโนชญ์กล่าวว่า อิหร่านมีการประกาศล้างแค้นสหรัฐฯ หลังการสังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่าน การตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ มีการชักธงสีแดง แสดงถึงการแก้แค้นด้วยเลือด ซึ่งมีนัยหลายอย่างมาก หมายความว่า นายพลกัสเซ็ม โซไลมานี เป็นบุคคลสำคัญมาก ประการที่ 2 หมายถึงการล้างแค้นที่ต้องมีอย่างแน่นอนตราบใดที่ธงนี้ไม่ถูกลดก็จะล้างแค้นแน่นอน เป็นจิตวิทยาให้คนอิหร่านไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไป
การที่บอกว่าต้องแก้แค้น ชักธงสีแดงเลือด การแสดงแบบนี้ไม่แน่ใจว่าหมายถึงการเอาคืนกับทหารสหรัฐฯ ระดับเดียวกับโซไลมานี หรือแก้แค้นกับผู้ที่สั่งการก็คือประธานาธิบดีทรัมป์
ดร.มาโนชญ์กล่าวอีกว่า ที่ประกาศระดมเงินค่าหัวทรัมป์ ไม่ใช่ในนามรัฐบาล แต่เป็นการกระทำของหน่วยงานองค์กรใดองค์กรหนึ่ง กระแสมุ่งล้างแค้นโดยเอาชีวิตทรัมป์ ต่อให้หมดวาระประธานาธิบดีก็ยังต้องระวังตัวตกเป็นเป้าการสังหารตลอดชีวิต มันเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
ดร.มาโนชญ์กล่าวต่อว่า หลักขอความยุติธรรมในศาสนาอิสลาม คนที่ทำผิดหรือละเมิดคนอื่นต้องได้รับผลตอบแทนเช่นกัน แต่อีกหลักการที่สำคัญกว่าคือการให้อภัย ไม่จำเป็นต้องล้างแค้นเสมอไป ให้อภัยกันได้แต่ภายใต้พื้นฐานการสำนึกผิด การขอโทษ ซึ่งในทางการเมืองมันยาก
รูปแบบการล้างแค้น การโจมตีฐานทัพอเมริกาที่อยู่ในตะวันออกกลางเกิดขึ้นแน่นอน แต่ที่อันตรายสุดที่จะตกเป็นเป้าก็คือในอิรัก แล้วลักษณะการตอบโต้อย่างหนึ่งคือการใช้ตัวแทนอิหร่าน พวกกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะทำเองหรืออิหร่านสั่งการ พวกนี้จะตอบโต้ เป็นไปได้สูง แต่การที่อิหร่านโจมตีอเมริกาโดยตรงเป็นไปได้ยาก เพราะอิหร่านคงประเมินศักยภาพตัวเองแล้วคงสู้ไม่ได้ รูปแบบการเผชิญหน้าโดยตรงคงยาก ถ้าไม่ถูกโจมตีโดยตรงก่อน น่าสนใจอีกอย่างคือถ้ามีมือที่สามขึ้นมา อิหร่านจะตอบโต้ไปที่ไหน
ส่วนการโจมตีถึงในประเทศอเมริกาก็มีโอกาสเป็นไปได้ ซึ่งอาจไม่ได้มาจากอิหร่าน แต่มาจากกลุ่มต่างๆ ก็ได้ หรือบางกลุ่มที่อยู่ตรงข้ามอิหร่าน ก่อเหตุเพื่อสวมรอย