รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในวันพุธ (8 ม.ค.) สหรัฐฯ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้แสนยานุภาพทางทหารกับอิหร่าน ในถ้อยแถลงที่ดูเหมือนพยายามปลดชนวนวิกฤตที่มีต้นตอจากปฏิบัติการของอเมริกา ลอบสังหารนายพลกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ของอิหร่าน
ในการปราศรัยจากทำเนียบขาว ทรัมป์เปิดเผยว่า ไม่มีพลเรือนและทหารสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพทหารซึ่งเป็นฐานประจำการของกำลังพลอเมริกาในอิรัก และบ่งชี้ว่าวอชิงตันอาจไม่ลงมือแก้แค้นในทันทีทันใด
“ข้อเท็จจริงคือ เรามีกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องใช้มัน เราไม่ต้องการใช้มัน ความเข้มแข็งของอเมริกา ทั้งในด้านการทหาร และเศรษฐกิจ คือสิ่งป้องปรามที่ดีที่สุด” ทรัมป์กล่าว “กองกำลังอเมริกันที่ยอดเยี่ยมของเราพร้อมสำหรับทุกสิ่ง ดูเหมือนอิหร่านจะเย็นลงแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและเป็นสิ่งดีสำหรับโลกใบนี้”
แม้ทรัมป์ไม่ได้ข่มขู่โดยตรงต่อการใช้ปฏิบัติทางทหารกับอิหร่าน แต่ขณะเดียวเขาบอกว่าสหรัฐฯ “จะกำหนดมาตรการลงโทษเพิ่มเติมในทันที สำหรับคว่ำบาตรรัฐบาลอิหร่าน” ตอบโต้ในสิ่งที่เขาเรียกว่า “การรุกรานของอิหร่าน” อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เจาะจงว่ามาตรการเหล่านั้นคืออะไร
กองทัพอิหร่านยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานทัพซึ่งเป็นฐานประจำการของทหารสหรัฐฯ ในอิรักในวันพุธ (8 ม.ค.) แก้แค้นให้ พลเอกกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ของอิหร่าน ที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโดรนโจมตีของสหรัฐฯในอิรัก โหมกระพือความตึงเครียดกับวอชิงตัน ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเกิดสงครามในวงกว้างในตะวันออกกลาง
อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ปราศรัยกับประชาชนที่พากันตะโกนว่า “อเมริกาไปตายซะ” โดยบอกว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการตบหน้าสหรัฐฯ แต่ยังไม่ถือว่าเพียงพอ สิ่งสำคัญคือกองกำลังอเมริกันต้องถอนตัวจากตะวันออกกลาง
กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านระบุว่าเตหะรานจะใช้มาตรการที่สาสมกันในการป้องกันตนเองและไม่ได้แสวงหาสถานการณ์เผชิญหน้าที่ลุกลามบานปลาย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปราศรัยในวันพุธ (8 ม.ค.) ทรัมป์ ประกาศอีกครั้งว่าเขาจะไม่ยอมให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และเรียกร้องบรรดามหาอำนาจโลก ในนั้นรวมถึงรัสเซียและจีน ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ทำไว้กับอิหร่าน และหันมาทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงใหม่
ข้อตกลงปัจจุบันอยู่ในภาวะล่อแหลม ด้วยเตหะรานแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ประกาศจะยกเลิกข้อจำกัดในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม หนึ่งในพันธสัญญาที่ให้ไว้ในข้อตกลง “ถึงเวลาแล้วสำหรับอังกฤษ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และจีน จะยอมรับความจริงนี้ ตอนนี้พวกเขาต้องถอนตัวจากส่วนที่เหลืออยุ่ในข้อตกลงอิหร่าน JCPOA”
“เราต้องทำงานร่วมกันมุ่งสู่กับทำข้อตกลงใหม่กับอิหร่าน ข้อตกลงที่จะทำให้โลกปลอดภัยขึ้นและเป็นสถานที่ที่มีสันติภาพกว่าเดิม” ทรัมป์ระบุ
นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ยังพูดถึงอิหร่านโดยตรง โดยบอกว่าต้องการเห็นพวกเขามีความสุขกับอนาคตแห่งความรุ่งเรืองและความสามัคคีแบบเดียวกับประเทศอื่นๆ สมควรได้รับ “สหรัฐฯ พร้อมโอบกอดสันติภาพกับใครก็ตามที่แสวงหามัน”