xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรจากทั่วสารทิศเข้าแถวรอคิวกราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.๙

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุรัตน์ นวลศรี ชาวจังหวัดกระบี่
ประชาชนจากทั่วสารทิศยังทยอยเดินทางมาเข้าแถวเพื่อกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ภายในพระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ประกาศเตือนให้ระวังทรัพย์สิน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน จิตอาสาเปิดให้บริการประชาชนในแถวโดยเฉพาะ เน้นให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเอง

วันนี้ (21 ธ.ค.) สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งในวันนี้ดำเนินมาเป็นวันที่ 53 ของการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

สำหรับบรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันนี้สำนักพระราชวัง เปิดประตูวิเศษไชยศรีให้ประชาชนกลุ่มแรกเข้าไปในเวลา 04.45 น. ซึ่งตลอดทั้งวันมีพสกนิกรทุกเพศทุกวัยจากทั่วสารทิศ ที่สำนึกในนพระมหากรุณาธิคุณต่อในหลวง รัชกาลที่ ๙ เดินแถวเข้ามารออย่างเรียบร้อย แม้ว่าจะมีแดดร้อนจัดตั้งแต่ในช่วงเช้าไปจรดบ่าย

ด้าน นายสุรัตน์ นวลศรี ชาวจังหวัดกระบี่ ที่ได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้านและประชาชนที่ได้ใช้ประโยชน์จากโครงการอ่างเก็บน้ำบางกำปรัด ในพระราชดำริฯ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดกระบี่ให้มีน้ำใช้ในการเกษตร กว่า 50 คน กล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ ได้ลงขันกัน เหมารถบัสกันมา 1 คันรถ ออกเดินทางจากจังหวัดกระบี่ตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อวานนี้ มาถึงที่สนามหลวงตอน 04.00 น. ของวันนี้ และได้กราบสักการะพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตอน 11.00 น. ซึ่งหลังจากที่ได้สักการะพระบรมศพเสร็จแล้วรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่ได้มากราบสักการะในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพราะทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯในหลวงเลยก็ตาม แต่พวกตนทุกคนต่างก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาพระองค์ให้มีที่อยู่ที่กินน้ำใช้ในการเกษตรจนถึงทุกวันนี้ เพราะประชาชนทุกคนที่มาล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงมีต่อชาวกระบี่ ในอดีตที่กระบี่ทั่วทั้งจังหวัดเต็มไปด้วยความแห้งแล้งขาดน้ำใช้ทางการเกษตรไม่สามารถปลูกพืชผลได้ แต่พอมีอ่างเก็บน้ำบางกำปรัด ในพระราชดำริ ชาวบ้านทุกคนล้วนมีน้ำใช้ทางการเกษตรปลูกพืชผลต่อปีพอมีรายได้มาเลี้ยงชีพ และมีเงินส่งลูกหลานเรียนจนจบมหาวิทยาลัย

“พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ช่างยิ่งใหญ่ไพศาลเหลือเกิน ทุกวันนี้ที่พวกเราทุกคนลืมตาอ้าปากได้ก็เพราะในหลวง รัชกาลที่ ๙ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีในหลวงอีกแล้ว แต่พวกเราทุกคนจะขอน้อมนำพระราชดำริของพระองค์เรื่องความพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป”

ด้าน นางเสาวนิตย์ วิจิตรนพคุณ ชาวบางแสน จังหวัดชลบุรี อายุ 50 ปี อาชีพค้าขาย เดินทางมาพร้อมเพื่อนและชาวบ้านจากบางแสนจำนวน 20 คน โดยรถบัส ตั้งแต่ 02.00 น. ก่อนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพตั้งแต่เวลา 03.50 น. เผยว่า ตนเดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกมารู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยมาพระบรมมหาราชวังมาก่อน ครั้งนี้จึงตั้งใจมากราบพระบรมศพอีกครั้งโดยระลึกถึงพระองค์ท่านว่าสิ่งใดที่ทรงทำไว้ตนตั้งใจจะพยายามทำตามให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตแบบพอเพียง หรือเรื่องของความอดทน อย่างเช่น เมื่อวานตอนแรกอยากซื้อชุดใหม่เพื่อเดินทางมากราบพ่อหลวงโดยเฉพาะ แต่ได้ความพ่อเพียงของพ่อมาช่วยเตือนใจให้ตนคิดได้ว่าตัวเองก็มีชุดอยู่แล้วไม่มีความจำเป็นต้องซื้อใหม่ก็ได้

นอกจากนี้ ตนยังประทับใจพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในทุกด้าน พระราชดำริต่างๆ ของพระองค์ดีมากเป็นเรื่องที่น้อยคนจะนึกถึงอย่างโครงการแก้มลิง ที่ทรงนำสภาพภูมิประเทศมาปรับใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรจากอุทกภัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ตนจึงตั้งใจว่าจะเดินทางมากราบพระบรมศพทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อองค์เหนือหัวของชาวไทย

ด้าน นางทิพวรรณ รักพรม อายุ 42 ปี อาชีพผู้จัดการโรงแรมดับเบิ้ลยู เล่าว่า ตนเองพร้อมสามี นายอภิชาติ อายุ 37 ปี และบุตร เด็กชายบัญญพนต์ อายุ 9 ปี โดยเดินทางจากบ้านย่านรามอินทรา มาถึงบริเวณท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลาตีสอง แล้วเริ่มเข้าแถวตรงจุดกรมรักษาดินแดน กว่าจะได้เข้าสักการะพระบรมศพตอนประมาณเวลา 09.00 น. แม้จะง่วงจะเพลียและหิว แต่เป็นความเหนื่อยแค่ภายนอก เพราะในใจมีความปลาบปลื้มปีติมากกว่า ถึงจะมีโอกาสได้อยู่บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพียงแค่สองนาที และแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเสด็จสวรรคตไปแล้วก็ตาม ทว่าครอบครัวของตนยังยึดมั่นในคำสอนของพระองค์ ทั้งเรื่องการเดินชีวิต การดูแลครอบครัว โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในครอบครัวถึงจะมีแต่ไม่ใช้เงินเกินตัว หรือใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็นะท่านั้น โดยในแต่ละวันการใช้เงินจะต้องมีการทำบัญชีให้ชัดเจน นอกจากนี้ยังได้น้อมนำคติธรรมที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงสอนบ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องการสอนตัวเองว่า ถ้าเราสอนตัวเองได้ดีแล้วจึงจะสามารถสอนคนอื่นได้ ถ้าสอนตัวเองไม่ได้ก็อย่าไปสอนคนอื่น มาใช้สอนลูกชายอีกด้วย

นอกจากนี้ นางทิพวรรณ ยังเล่าย้อนไปถึงความปลื้มปีติตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยเป็นเด็กอายุ 12 ปี เคยมีโอกาสได้เฝ้าฯ​ รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยพระราชโอรสและพระราชธิดา อย่างใกล้ชิด ขณะเสด็จพระราชดำเนินไปที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ด้วยความที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กคุณพ่อชวนให้ไปด้วยกันก็ไปกับคุณพ่อ ตัวเองยังไม่ทันได้คิดอะไร ครั้นพอเติบโตขึ้นมานี้หวนนึกถึงช่วงเวลานั้นทีไรก็มีความสุขทุกครั้ง จึงตั้งใจว่าหากมีโอกาส ตนเองจะต้องมาถวายสักการะพระบรมศพอีกแน่นอน
นางเสาวนิตย์ วิจิตรนพคุณ ชาวบางแสน จังหวัดชลบุรี อายุ 50 ปี
นางทิพวรรณ รักพรม พร้อมครอบครัว























กำลังโหลดความคิดเห็น