บลจ.วรรณจ่อเปิดกองทรัสต์ลุยลงทุนสินทรัพย์กลุ่มธุรกิจโรงแรม มั่นใจสร้างรายได้ที่ดีต่อเนื่องรับนักท่องเที่ยวแห่มาไทย ระบุแนวโน้มการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศดีแม้ดอกเบี้ยขาขึ้น เหตุปันผลเฉลี่ย 5-6% ส่วนไทย กลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีกน่าสนหลังกำลังซื้อกลับมาฟื้นตัว ขณะเดียวกันเตรียมปันผล 6 กองอสังหาฯ พร้อมกัน 8 กันยายนนี้
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังมีระดับการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีอัตราการจ่ายปันผลโดยเฉลี่ยที่ 5-6% ขณะที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทย กลุ่มกองทุนที่มีรายได้มาจากการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มที่ดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง กลุ่มค้าปลีก ทิศทางการบริโภคภายในประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้น จากตัวเลขอัตราค่าโฆษณาที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2/60 ยังคงออกมาขยายตัว 3.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนการฟื้นตัวภาคการบริโภคได้อย่างต่อเนื่อง กลุ่มออฟฟิศ เนื่องจากอัตราค่าเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ยังจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไป และจะเอื้อผลดีต่อผู้ประกอบการและการสร้างผลตอบแทน
“บลจ.วรรณยังมีมุมมองเชิงบวกต่อกองทุนอสังหาฯ โดยพิจารณาอัตราผลตอบแทนก็ยังน่าสนใจ ประกอบกับโอกาสการเติบโตของธุรกิจก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะธุรกิจภาคอสังหาฯ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยเร็วๆ นี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดเสนอขายกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต.” นายพจน์กล่าว
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยยังคงอยู่ในอัตราที่สูงประมาณ 6.11% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2.49% ต่อปี สะท้อนได้ว่ายังมีส่วนต่างของผลตอบแทนที่น่าสนใจ แม้ว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกจะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแล้วก็ตาม ทั้งนี้ มองว่า ปัจจัยเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยตลาดได้ Price-in ปัจจัยดังกล่าวไปพอสมควร ประกอบกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยหากราคากองทุนอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงมองเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสม
ในส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของ บลจ.วรรณ คณะกรรมการจัดการลงทุนได้มีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จากกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของผลดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.55 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยแลนด์ โฮสพิตี้ (TLHPF) ในอัตราหน่วยลงทุน 0.365 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย สมาร์ท สโตเรจ (SSTSS) ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.34 บาท
อีกทั้งยังมีมติจ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จากกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.175 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1(TIF1) ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.134 บาท นอกจากนี้ มีมติจ่ายปันผลและลดทุนจดทะเบียนครั้งที่ 1 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ยูนิลอฟท์ (UNIPF) จากกำไรสะสม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.12 บาท และลดเงินทุนหน่วยละ 0.05 บาท เป็น 9.95 บาทต่อหน่วย จากมูลค่าหน่วยที่ตราไว้ 10.00 บาท เนื่องจากการลดลงของราคาประเมินค่าทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งการลดเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนรวมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการจ่ายคืนสภาพคล่องส่วนเกินจากกรณีที่กองทุนมีการรับรู้รายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง โดยทั้ง 6 กองทุนจะกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 24 สิงหาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2560