บลจ.กรุงไทยเปิดกองตราสารหนี้ต่างประเทศ ชูผลตอบแทน 1.35% ต่อปี พร้อมปันผล 5 กองทุน มูลค่ารวมกว่า 824 ล้านบาท
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 166 (KTFF166) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2560 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 อายุโครงการ 6 เดือน ลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of China, Agricultural Bank of China, China Construction Bank, Industrial and Commercial Bank of CHINA, ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ส่วนที่เหลือลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of Communications 10% และ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC 14% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.35% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินเพื่อหาจังหวะการลงทุนในโอกาสต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนมีมติจ่ายเงินปันผล 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทย ออพเพอทูนิตี้ ( KT-OPP Class D ) ครั้งที่ 1/2560 อัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 กันยายน 2559-31 สิงหาคม 2560 จ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 สิงหาคม 2560
กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 27 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2560 อัตรา 0.4380 บาทต่อหน่วย, กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 14 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2560 อัตรา 0.2052 บาทต่อหน่วย, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 7 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2560 อัตรา 0.2100 บาทต่อหน่วย, กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดุสิตธานี จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 12 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 มกราคม-30 มิถุนายน 2560 อัตรา 0.2630 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผลครั้งนี้ทั้งสิ้นกว่า 824 ล้านบาท
กองทุน KT-OPP มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ 0-100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณานำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2560 YTD (3 ม.ค.-11 ส.ค.) ผลตอบแทนอยู่ที่ 8.34 % 6 เดือนอยู่ที่ 5.58% และ1 ปี อยู่ที่ 11.46% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน AIMC YTD อยู่ที่ 2.87% 6เดือนอยู่ที่ 1.35% และ 1 ปี อยู่ที่ 3.26%
ส่วนกองทุน TTLPF ลงทุนในสิทธิการเช่าบางส่วนในโครงการตลาดไท ระยะเวลา 20 ปี กองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูนทาวน์ ) และอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กองทุน EGATIF ลงทุนในสิทธิการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย ในอนาคตที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ด้วยการเข้าทำสัญญากับ กฟผ. ในสัญญาการเข้าลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งมีอายุสัญญา 20 ปี นับจากวันที่กองทุนรวมเข้าลงทุน และกองทุน DTCPF ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ และการลงทุนในสิทธิการเช่าในทรัพย์สินของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน
