บลจ.กรุงไทยเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 1 ปี ชูผลตอบแทน 1.85%
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยในช่วงต้นสัปดาห์อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรหลัง GDP ไตรมาส 4 ของประเทศไทยออกมาดีกว่าคาด ก่อนจะปรับตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงซื้อกลับจากความผันผวนของราคาน้ำมันที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก
สำหรับนักลงทุนต่างชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 11,221 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.48% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps มาอยู่ที่ 1.72% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps มาอยู่ที่ 2.05% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นลงผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ทยอยออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 bps มาอยู่ที่ 0.76% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ 1.24% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps มาอยู่ที่ 1.76% ต่อปี
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในต่างประเทศ สัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มราคาน้ำมัน แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
นางชวินดา กล่าวต่อว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 86 ( KTFF86) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2559 อายุ 1 ปี เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท MTN ที่ออกโดย Emirates NBD PJSC, เงินฝากประจำ Commercial Bank of Qatar Q.S.C, First Gulf Bank PJSC, Qatar National Bank และ Union National Bank PJSC ผลตอบแทนประมาณ 1.85%
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 (KTFIX3M3) เสนอขายถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยทั้ง 100% ผลตอบแทนประมาณ 1.10% ต่อปี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยในช่วงต้นสัปดาห์อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรหลัง GDP ไตรมาส 4 ของประเทศไทยออกมาดีกว่าคาด ก่อนจะปรับตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงซื้อกลับจากความผันผวนของราคาน้ำมันที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก
สำหรับนักลงทุนต่างชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 11,221 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.48% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 6 bps มาอยู่ที่ 1.72% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps มาอยู่ที่ 2.05% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นลงผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ทยอยออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 bps มาอยู่ที่ 0.76% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ 1.24% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps มาอยู่ที่ 1.76% ต่อปี
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในต่างประเทศ สัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มราคาน้ำมัน แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
นางชวินดา กล่าวต่อว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 86 ( KTFF86) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2559 อายุ 1 ปี เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท MTN ที่ออกโดย Emirates NBD PJSC, เงินฝากประจำ Commercial Bank of Qatar Q.S.C, First Gulf Bank PJSC, Qatar National Bank และ Union National Bank PJSC ผลตอบแทนประมาณ 1.85%
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 (KTFIX3M3) เสนอขายถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยทั้ง 100% ผลตอบแทนประมาณ 1.10% ต่อปี