บลจ.กรุงไทยส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นไอพีโอ ชูลงทุน 1 ปีให้ผลตอบแทน 1.90%
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวผันผวนตามเงินลงทุนไหลเข้าจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของ ECB และแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่มีแรงขายในบางช่วงอายุตามการเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยอัตราผลตอบแทนปรับตัวลงค่อนข้างมากในพันธบัตรรุ่นอายุยาว นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 48,258 ล้านบาท
ทางด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายทำกำไรจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันที่ตลาด คาดว่าจะมีการเจรจาเพื่อลดกำลังการผลิตในวันที่ 20 มีนาคม และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของ ECB ที่ผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดคาด โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 bps มาอยู่ที่ 0.97% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 11 bps มาอยู่ที่ 1.49% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 bps มาอยู่ที่ 1.98% ต่อปี
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม ในสัปดาห์นี้จะเป็นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 15-16 มีนาคม 2559 นี้ รวมถึงความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 81 (KTFF81) และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 88 (KTFF88) เสนอขายในวันที่ 16-22 มีนาคม 2559 โดยกองทุน KTFF81 มีอายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งประกอบด้วย พันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น เงินฝากประจำ Ahli Bank QSC, Commercial Bank of Qatar Q.S.C. และ First Gulf Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี
ส่วนกองทุน KTFF88 อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Emirates NBD PJSC เงินฝากประจำ Commercial Bank of Qatar Q.S.C, First Gulf Bank PJSC Ahli bank QSC และ Union National Bank PJSC ผลตอบแทนประมาณ 2.00 % ต่อปี ทั้ง 2 กองทุน บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวผันผวนตามเงินลงทุนไหลเข้าจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของ ECB และแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่มีแรงขายในบางช่วงอายุตามการเคลื่อนไหวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยอัตราผลตอบแทนปรับตัวลงค่อนข้างมากในพันธบัตรรุ่นอายุยาว นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 48,258 ล้านบาท
ทางด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายทำกำไรจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันที่ตลาด คาดว่าจะมีการเจรจาเพื่อลดกำลังการผลิตในวันที่ 20 มีนาคม และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของ ECB ที่ผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดคาด โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 bps มาอยู่ที่ 0.97% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 11 bps มาอยู่ที่ 1.49% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 bps มาอยู่ที่ 1.98% ต่อปี
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม ในสัปดาห์นี้จะเป็นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 15-16 มีนาคม 2559 นี้ รวมถึงความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 81 (KTFF81) และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 88 (KTFF88) เสนอขายในวันที่ 16-22 มีนาคม 2559 โดยกองทุน KTFF81 มีอายุ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งประกอบด้วย พันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น เงินฝากประจำ Ahli Bank QSC, Commercial Bank of Qatar Q.S.C. และ First Gulf Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี
ส่วนกองทุน KTFF88 อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนใน MTN ที่ออกโดย Emirates NBD PJSC เงินฝากประจำ Commercial Bank of Qatar Q.S.C, First Gulf Bank PJSC Ahli bank QSC และ Union National Bank PJSC ผลตอบแทนประมาณ 2.00 % ต่อปี ทั้ง 2 กองทุน บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี