xs
xsm
sm
md
lg

เทอมฟันด์ยังให้ยิลด์ดี 2 บลจ.เปิดขายไอพีโอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทย และ บลจ.เอ็มเอฟซี พร้อมใจเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 6 เดือน ชูผลตอบแทนโดนใจ

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเบาบางจากการที่นักลงทุนในประเทศชะลอการลงทุนเนื่องจากอัตราผลตอบแทนปัจจุบันอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ โดยนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิจำนวน 3,083 ล้านบาท

โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกายังคงปรับตัวขึ้นลงผันผวนตามความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยที่ปรับขึ้นลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ทยอยออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 0.80% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.23% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 1.76% ต่อปี

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในประเทศจะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ ส่วนต่างประเทศจะเป็นแนวโน้มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของ ECB ในวันที่ 10 มีนาคม 2559 แนวโน้มราคาน้ำมัน แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟเอเอฟ 80 (KTFF80) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2559 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทพันธบัตรประเทศญี่ปุ่น เงินฝากประจำ Ahli Bank QSC, Commercial Bank of Qatar Q.S.C. และ First Gulf Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี และเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะสั้น

ทางด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีกำลังเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 32 อายุโครงการ 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2559 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คาดโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 1.90 ต่อปี

โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศ และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (ไม่ต่ำกว่า BBB-)


กำลังโหลดความคิดเห็น