บลจ.กรุงไทยเผยกองทุน “เคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์” ไม่มีหุ้นดอยช์แบงก์ นักลงทุนมั่นใจได้ ล่าสุดส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 1 ปีให้ผลตอบแทน 2% ต่อปีไอพีโอ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของดอยช์แบงก์ เนื่องจากธนาคารมีภาระหนี้ต้องจ่าย coupon ให้กับตราสารหนี้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basell III (AT1) ถึงประมาณ 350,000 ล้านยูโร แม้ผู้บริหารของดอยช์แบงก์จะยืนยันถึงสภาพคล่องของธนาคารที่ยังสามารถจ่ายหนี้ได้ทั้งในปี 2016 และ 2017
แต่นักวิเคราะห์ด้านเครดิตยังคงแสดงความกังวลถึงความเสี่ยงที่ธนาคารอาจสูญเสียสภาพคล่องจากทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ยังมีความเสี่ยงจากหลายด้าน จากผลประกอบการที่ออกมาไม่ดีต่อเนื่องติดต่อกันถึงสองไตรมาส การดำเนินธุรกิจในยุโรปที่เศรษฐกิจยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ประกอบกับธนาคารมีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์และธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับตราสารอนุพันธ์ในระดับสูงเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆ ทำให้ดอยช์แบงก์อาจต้องแบกรับภาระทางการเงิน ในกรณีที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำต่อไป และธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มมีการปิดกิจการมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดอยช์แบงก์ยังมีความไม่แน่นอนทางด้านสภาพคล่องจากค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นในคดีที่ดอยช์แบงก์ถูกฟ้องร้อง และการขายธนาคารในจีนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ความกังวลของนักลงทุนที่เกิดจากสาเหตุดังกล่าวทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นดอยช์แบงก์ติดต่อกันทำให้ราคาหุ้นของดอยช์แบงก์ลดลง 9%
สำหรับกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์ (KT-Finance) ไม่มีสัดส่วนในการถือครองหุ้นดอยช์แบงก์ กองทุนจึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันกองทุนลงทุนใน US 43% EUROPE 30% และ ASIA 22% เป็นกองทุนที่มีนโยบายกองทุนในหมวดอุตสาหกรรม ที่มุ่งลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงในอุตสาหกรรมการให้บริหารด้านการเงิน โดยลงทุนในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds - Global Financial Service Fund ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
นางชวินดา กล่าวต่อว่า แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศอายุต่ำกว่า 2 ปี ปรับตัวลดลงตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาพักเงินในตราสารระยะสั้น หลังเงินบาทมีการแข็งค่าค่อนข้างเร็ว ตราสารอายุ 3-5 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรหลังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย R/P 1 วัน ที่ 1.50% ต่อปี นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 17,298 ล้านบาท
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุคงเหลือตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยหลังการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันจากการที่ซาอุดีอาระเบียออกมาปฏิเสธว่า OPEC จะไม่มีการประชุมกับรัสเซียเรื่องลดกำลังการผลิตน้ำมันและ OPEC จะไม่มีการประชุมกันอีก 2 เดือน ทำให้ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปีอยู่ที่ 0.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปีอยู่ที่ 1.25% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปีอยู่ที่ 1.86% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายการเงินของจีน แนวโน้มราคาน้ำมันโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 50 (KTFF50) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 อายุ 1 ปี เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประกอบด้วย MTN ที่ออกโดย Banco Latinoamericano de Comercio Exterior,.S.A. เงินฝากประจำ Agricultural Bank of CHINA, Bank of China (Macau), Commercial Bank of Qatar Q.S.C และ Ahli Bank QSC ผลตอบแทนประมาณ 2% ต่อปี