บลจ.กรุงไทยอวดผลการดำเนินงาน “กองทุนเคแทม ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ ฟันด์” ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 4.16% ส่วน 1 ปีอยู่ที่ 20.64% คาดเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนส่งผลดีต่อกองทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนยิ่งขึ้น ความเชื่อมั่นดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อการบริโภคของภาคเอกชน ค่าเงินยูโรอ่อนทำให้ดุลการค้าดีขึ้นมาก การจ้างงานดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่อง ภาคการธนาคารเริ่มมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากอุปสงค์ที่ดีขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.6% ในปี 2559 จาก 1.5% ในปี 2558
ส่วนธนาคารกลางของยุโรป หรือ ECB น่าจะดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่องจนครบตามกำหนดในเดือน มี.ค. 2559 ทำให้นโยบายการเงินในยูโรโซนยังคงมีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่อง ขณะที่การปฏิรูปโครงสร้างภายในของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนสามารถเพิ่มสัดส่วนของกำไร (Profit Margin) ได้ ความเสี่ยงที่ต้องจับตาคือปัญหาการเมือง การเลือกตั้งในบางประเทศ รวมถึงวิกฤตผู้อพยพลี้ภัยที่เข้ามาในทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ประเทศจีนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน กับซาอุดีอาระเบีย บลจ.กรุงไทยได้แสวงหาช่องทางการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทน จึงขอแนะนำกองทุนเปิดเคแทม ยูโรเปี้ยน อิควิตี้ ฟันด์ (KT-EURO) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนในช่วงนี้
สำหรับกองทุน KT-EURO เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Invesco Continental European Small Cap Equity Fund และเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มประเทศในแถบยูโรโซน ไม่รวมอังกฤษ ประเภทหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยปัจจุบันกองทุนปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2558 ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 4.16% และ 1 ปีอยู่ที่ 20.64% เมื่อเทียบกับ Benchmark ย้อนหลัง 9 เดือนอยู่ที่ 14.55% และ 1 ปีอยู่ที่ 19.10% ซึ่งนับว่ากองทุน KT-EURO มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี เมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศ และการลงทุนในภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ในปีนี้ก็ยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
นางชวินดากล่าวต่อว่า แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรในพันธบัตรระยะกลางถึงยาว เพื่อลดความเสี่ยงจากการไหลออกของเงินลงทุนหลังค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดเพิ่มความระมัดระวังก่อนการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุคงเหลือ 10 ปี (LB25DA) ในช่วงกลางสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาบางส่วน
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศลดลง 19 bps มาอยู่ที่ 1.57% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 14 bps มาอยู่ที่ 2.13% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีน แนวโน้มราคาน้ำมันโลก และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ นักลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วงนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 78 (KTFF78) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 มกราคม 2559 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท MTN ที่ออกโดย Banco Latinoamericano de Comercio Exterior, S.A., ออกโดย Agricultural Bank of CHINA, ออกโดย Industrial and Commercial Bank of CHINA (Asia) Ltd. และ เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC และ Ahli Bank QSC ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.75% ต่อปี