บลจ.กรุงไทยชี้โอกาสลงทุนหุ้น “เฮลท์แคร์” มาแล้วหลังดัชนีเอ็มเอสซีไอ เวิลด์ เฮลท์แคร์ อินเด็กซ์ ปรับตัวลดลง พร้อมมองอุตสาหกรรมนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต ล่าสุดส่ง “เคแทม เวิลด์ เฮลท์แคร์ ฟันด์” และ “เคแทม เวิลด์ เฮลท์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ” ขายไอพีโอระหว่างวันที่ 11-25 พฤศจิกายน 2558 นี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ เนื่องจากดัชนีเอ็มเอสซีไอ เวิลด์ เฮลท์แคร์ อินเด็กซ์ จากระดับสูงสุดในปีนี้ที่ 228.68 จุด ปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ 192.74 จุด และล่าสุดอยู่ที่ 211.55 จุด หรือลดลงจากจุดสูงสุดประมาณ 8.10% ซึ่ง บลจ.กรุงไทยมองว่าอุตสาหกรรมนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในระยะสั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเข้าลงทุน
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ บลจ.กรุงไทยมองว่าหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เพราะกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายทางการแพทย์เฉลี่ยสูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ ถึง 3 เท่าตัว กลุ่มคนเริ่มสนใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเข้าหาแหล่งการรักษาที่ทันสมัย มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และการรักษาเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ และสุขภาพเป็นหุ้นในกลุ่มลักษณะดีเฟนซีฟ สต๊อก ซึ่งจะมีความผันผวนต่ำกว่า และได้รับผลกระทบน้อยในตลาดขาลง และภาวะตลาดผันผวน อย่างไรก็ตาม กองทุนนี้นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลงทุนในระยะยาว และเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
โดยบริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลท์แคร์ ฟันด์ และ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลท์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ในวันที่ 11-25 พฤศจิกายน 2558 โดยทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน เจนัส โกลบอล ไลฟ์ ไซแอนซ์ ฟันด์ (กองทุนรวมหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม มูลค่าโครงการกองทุนละ 1,000 ล้านบาท ราคาพาร์ที่ 10 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยกองทุนรวมหลักจะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำวิจัย การพัฒนา หรือการผลิตยา การบริการด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล และคลินิก การคิดค้นผลิตภัณฑ์ขั้นสูงทางวิศวกรรมพันธุกรรม และผู้ผลิตทางการแพทย์ อุปกรณ์ และวัสดุสิ้นเปลืองอื่นๆ
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 2 (KTSIV6M2) เสนอขายถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศ ในสัดส่วน 16% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี กองทุนนี้เป็นทางเลือก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทน และรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลาง