บลจ.ทหารไทยมองหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงยังน่าสนใจ ในกลุ่มบริโภค เทคโนโลยี ที่โตตามประชากร ยังแนะกระจายลงทุนในหุ้นทั่วโลก และอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนหุ้นต่างประเทศ และมองเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธุรกิจ New Economy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเติบโตของประชากร และการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เนื่องจากกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าในช่วงที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง ต่างจากกลุ่ม Old Economy ที่เน้นลงทุนหุ้นธนาคาร บริษัทประกัน อสังหาริมทรัพย์ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงบริษัทโภคภัณฑ์ ที่ได้รับผลกระทบมากกว่าในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี
นอกจากนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนหุ้นญี่ปุ่น และหุ้นยุโรป รวมถึงยังแนะนำให้นักลงทุนกระจายสินทรัพย์การลงทุน โดยบริษัทแนะนำลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth Global Quality Growth ซึ่งมี Wellington เป็นผู้จัดการกองทุน ด้านการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ มองว่าการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจ ซึ่งแนะนำกองทุนเปิดทหารไทย พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม พลัส สำหรับลูกค้าที่ยังต้องการหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น ทั้งนี้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดยังสามารถให้ผลตอบแทนได้ประมาณ 5-6%
“Property Fund ส่วนใหญ่รายได้ยังค่อนข้างสม่ำเสมอ และมีการปรับราคาได้ตามเงินเฟ้อ โดยจะปรับขึ้นทุก 3-5 ปี แต่ถ้าหากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำอาจจะหาคนเช่าได้ค่อนข้างยาก ส่งผลให้ราคาปรับตัวลง แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจยังมีการเติบโตปกติราคาก็จะค่อนข้างนิ่ง ช่วงที่ผ่านมากองอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่รายได้ยังเหมือนเดิม แต่ราคาของ Property Fund ในตลาดปรับลดลง ซึ่งในความเป็นจริงก็จะทำให้ Yield ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม พลัส มีการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผลตอบแทนปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจและกองนี้มีการจ่ายเงินปันผลทุก 3 เดือน”
สำหรับคนที่ลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ ผลตอบแทนปัจจุบันเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2-3% และหากเป็นการลงทุนตราสารหนี้กลุ่ม High Yield แม้จะมีผลตอบแทนสูงกว่าแต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องเครดิตซึ่งต้องระมัดระวังพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทุน High Yield ในต่างประเทศ ส่วนหุ้นกู้เอกชนในประเทศไทย โอกาสการผิดนัดชำระหนี้ยังค่อนข้างน้อย
ด้านการรับโอนเงินจากสมาชิกที่คงไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมายังกองทุน RMF หลังจากเปิดบริการช่วงปลายปี 2558 มีสมาชิกที่สนใจและโอนเงินเข้ามายังกองทุน RMF ของบริษัทแล้ว โดยมีเงินที่รับโอนเข้ามาประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจุดเด่นของ บลจ.ทหารไทย คือการที่กองทุน RMF มีนโยบายการลงทุนหลากหลาย สามารถเลือกลงทุนได้ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังมีกองที่ลงทุนต่างประเทศด้วย อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนนโยบายการลงทุนได้ทุกวันอีกด้วย
นายไพศาล กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีสมาชิกที่คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าสามารถย้ายโอนมายังกองทุน RMF ได้ บริษัทจึงต้องเร่งเผยแพร่ข้อมูลให้สมาชิกกลุ่มนี้ทราบ นอกจากนี้ สำหรับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั่วไป หลายคนยังไม่ทราบความสำคัญของการเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในระยะยาว