xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นจีนทรุดทำนิวโลว์รอบ 14 เดือน รอวัดใจเฟดชะลอขึ้น ดบ.หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นักลงทุนถึงกับกุมศีรษะ หลังเห็นความเคลื่อนไหวของดัชนีเซี่ยงไฮ้ ร่วงแรงกว่า 6% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อวันอังคาร (25)  หลังราคาน้ำมันตกรอบใหม่ที่กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและการเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง
รอยเตอร์ - หุ้นจีนร่วงแรงกว่า 6% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อวันอังคาร (25) หลังราคาน้ำมันตกรอบใหม่ที่กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและการเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง และขณะนี้ ทั่วโลกกำลังจับตาการประชุมในสัปดาห์นี้ว่าเฟดจะรับรู้ความกังวลเหล่านี้และชะลอแผนการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่

ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตเจอกระแสเทขายอย่างหนักในช่วงบ่าย และปิดการซื้อขายด้วยการลดลง 6.4% อยู่ที่ 2749.79 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับจากวันที่ 1 ธันวาคม 2014

ด้านดัชนีซีเอสไอ300 ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนใหญ่สุดในเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ดิ่งลง 6% ปิดที่ 2,940.51 ต่ำสุดนับจากต้นเดือนธันวาคม 2014 เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ หลังจากดีดกลับขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ (22) และช่วงเช้าวันจันทร์ (25) ราคาน้ำมันดิบกลับตกทะลุ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกรอบและเคลื่อนไหวอยู่ใกล้สถิติต่ำสุดในรอบ 12 ปีที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พลอยทำให้หุ้นวอลล์สตรีทหลุดจากแดนบวกหลังขยับขึ้นได้ไม่กี่วันเท่านั้น

นับจากต้นปีจนถึงขณะนี้ ตลาดหุ้นจีนร่วงไปแล้วราว 22% จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจแดนมังกร และความสับสนเกี่ยวกับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารกลางจีน

นักลงทุนจำนวนมากหมดความอดทนกับตลาดหุ้นจีนหลังจากตกลงถึง 40% ในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว ปักกิ่งพยายามเข้าแทรกแซง แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่เข้าช้อนซื้อเพราะคิดว่าหุ้นตกสุดขีดแล้วต้องขาดทุนอีกครั้งในเดือนนี้

หวัง เป่าอัน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ แสดงความเชื่อมั่นในตลาดพร้อมไปกับฟื้นความมั่นใจของนักลงทุน โดยกล่าวว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบจำกัดต่อเศรษฐกิจที่แท้จริง และย้ำจุดยืนของปักกิ่งว่า ไม่มีเหตุผลที่หยวนจะอ่อนค่าลงเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจจีนยังมั่นคงแข็งแรงดี

“เศรษฐกิจจีนจะได้รับการสนับสนุนจากกระบวนการพัฒนาเมือง การบริโภค และปัจจัยบวกอื่นๆ” หวังย้ำ

กระนั้น นักลงทุนยังคงกังวลว่าเงินหยวนอาจอ่อนค่าลงอีก แม้พีเพิลส์ แบงก์ ออฟ ไชน่า (พีบีโอซี) หรือธนาคารกลางจีนคงค่ากลางอ้างอิงเงินหยวนประจำวันโดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนับจากตลาดมีปฏิกิริยาแง่ลบต่อการอ่อนค่าของเงินหยวนเมื่อต้นเดือนนี้ก็ตาม

ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนในตลาดซื้อขายทันทีอยู่ที่ 6.5810 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อวันอังคาร อ่อนลงเล็กน้อยจากราคาปิดในวันจันทร์

อย่างไรก็ตาม มีความเคลื่อนไหวหนึ่งที่อาจช่วยฟื้นตลาดการเงินได้ นั่นคือรายงานจากหนังสือพิมพ์นิกเกอิฉบับวันอังคารที่ระบุว่า ญี่ปุ่นและจีน สองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดของเอเชีย ประกาศแผนร่วมกันสร้างกรอบโครงใหม่ในการหารือเกี่ยวกับการร่วมมือด้านนโยบายเศรษฐกิจ เช่น ขั้นตอนในการสร้างเสถียรภาพเงินหยวน

แบงก์ชาติจีนนั้นเขย่าตลาดการเงินโลกมาแล้วสองครั้งในรอบหกเดือนที่ผ่านมา ด้วยการปล่อยให้ค่าเงินร่วงลงรุนแรงเพียงเพื่อเข้าแทรกแซงอย่างแข็งกร้าวเพื่อฟื้นอัตราแลกเปลี่ยน

วันเดียวกัน สื่อของทางการจีนยังส่งสารเตือนจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินและนักลงทุนระดับเศรษฐีพันล้าน ไม่ให้เดิมพันกับการอ่อนค่าของหยวนหรือดอลลาร์ฮ่องกง

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่โซรอสกล่าวก่อนหน้านี้ว่า กำลังเดิมพันกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 ประเทศที่ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินในเอเชีย โดยไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นหยวนหรือดอลลาร์ฮ่องกง

ธนาคารกลางจีนยังอัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมากเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อป้องกันการขาดแคลนเงินสดก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มต้นขึ้นต้นเดือนหน้า โดยเทรดเดอร์ระบุเมื่อวันอังคารว่า แบงก์ชาติแดนมังกรจะอัดฉีดเงิน 440,000 ล้านหยวนเข้าสู่ตลาด ซึ่งถือเป็นปริมาณการอัดฉีดสูงสุดประจำวันในรอบ 3 ปี

อนึ่ง การอ่อนค่าของเงินหยวนและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีนกระตุ้นให้เงินทุนไหลออกจากประเทศเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ แม้ผู้วางนโยบายพยายามหาทางป้องกันก็ตาม

นอกจากตลาดหุ้นจีนแล้ว ตลาดหุ้นอีกหลายแห่งต่างติดลบตามกันในวันอังคาร เช่น ดัชนีนิกเกอิของโตเกียวที่ลดลง 2.4%, ดัชนีฮั่งเส็งในตลาดฮ่องกงติดลบ 2.48% และดัชนีคอสปีในตลาดโซลลดลง 1.2% เป็นต้น

และขณะนี้ทั่วโลกกำลังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะรับรู้ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและภาวะตลาดโลกปั่นป่วน และตัดสินใจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไปก่อนหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น