บลจ.วรรณมั่นใจเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังภาครัฐอัดเงินกระตุ้น แถมราคาน้ำมันลดฮวบหนุนรายได้แท้จริงเพิ่ม ล่าสุดเปิดกองทุนใหม่ เชื่อจังหวะดีช้อนหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ชั้นนำ มั่นใจกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้แตะ 11%
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศกลุ่มยูโรโซนมีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
หลังทางการยุโรปมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายทางการเงิน โดยปัจจัยที่ผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาจากการบริโภคภาคเอกชนเป็นหลัก รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ซึ่งสนับสนุนต่อรายได้ที่แท้จริงของประชาชนให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางการของยุโรปได้ลดความคาดหวังพึ่งพาด้านการส่งออก แต่เน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ทำให้ภาคการบริโภคเป็นส่วนผลักดันเศรษฐกิจให้ค่อยๆ ดีขึ้นได้
โดยบริษัทคาดการณ์ตัวเลขของการบริโภคภาคเอกชนมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปขยายระยะเวลาโครงการ QE เพิ่มเติมถึงเดือน มี.ค. 2560 วงเงิน 60,000 ล้านยูโรต่อเดือน และพร้อมจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินอื่นๆ เพิ่มเติมหากเศรษฐกิจมีความจำเป็น
นอกจากนี้ ดัชนีชี้นำต่างๆ ที่ผ่านมาก็มีแนวโน้มที่ดี เช่น ตัวเลขการจ้างงานและการเติบโตของค่าจ้าง รายได้ที่แท้จริงหลังราคาน้ำมันปรับลดลง รวมถึงการปรับลดภาษีในการดำเนินธุรกิจและผู้ที่มีรายได้ต่ำในบางประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดันการบริโภคให้เพิ่มขึ้นในอนาคต
สำหรับภาคของการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป บริษัทประเมินว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และค่าเงินที่อ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนยุโรปในปีนี้ในระดับประมาณ 11%
ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐอเมริกาที่เติบโตค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าอัตราการเติบโตในปีนี้จะน้อยมาก ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปมีความน่าสนใจมากกว่าโดยเปรียบเทียบกัน
“หากพิจารณาในส่วนของมูลค่าหุ้นของตลาดหุ้นยุโรปพบว่า อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) ซึ่งสะท้อนจาก 1 Y Forward PE ยังอยู่ในระดับต่ำที่ระดับประมาณ 12 เท่า ขณะที่อัตราเงินปันผลอยู่ในระดับสูงประมาณ 4-5% ในส่วนของค่าเงินนั้น โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดมีความกังวลกับเหตุการณ์ต่างๆ สกุลเงินยูโรจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์น้อยกว่าหากเทียบกับสกุลเงินของประเทศอื่นๆ เนื่องจากค่าเงินยูโรไม่แปรผกผันตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมากนัก ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ลงทุน เพราะจะลดความเสี่ยงจากความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน” ดร.วินกล่าว
ดร.วินกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้บริษัทคาดการณ์ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางอีซีบีได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.01% ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณเงินที่อัดฉีดเข้างบดุลของอีซีบีสูงเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากประเทศญี่ปุ่น และบ่งชี้ให้เห็นถึงทิศทางของเม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในยูโรโซนอีกมาก
ดังนั้น บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสลงทุนช่วงตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในระดับราคาที่น่าสนใจ เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการทยอยสะสมหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยวันนี้ ถึงวันที่ 27 มกราคม บริษัทเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ ยุโรป อิควิตี้ ฟันด์ (ONE-EUROPE)
กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนหน่วยลงทุนในกองทุนเปิด JPMorgan Funds - Europe Strategic Growth Fund และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ J.P. Morgan Asset Management โดยใช้กลยุทธ์ในการลงทุนที่มุ่งเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มอัตราการเติบโตสูง (Value Growth Stock) และพิจารณาจากหุ้นที่มีมูลค่าน่าสนใจ หุ้นที่มีคุณภาพและมีโมเมนตัมเชิงบวกที่จะสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดได้ หรือหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาและผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีในอนาคต
สำหรับกองทุน ONE-EUROPE มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน ทำให้ยืดหยุ่นในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาวการณ์แต่ละขณะ
MGR Ibusiness