เวลากับปฏิทินก็เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2558 และก็จะเดินต่อไปจนสิ้นสุดปีนี้เพื่อเข้าสู่ปี 2559 .... ในช่วงครึ่งปีแรกนี้นักลงทุนทุกคนรับรู้กันไปแล้วถึงสภาพการณ์ต่างๆ นานาที่กระทบต่อการลงทุน จนเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังมานี้เศรษฐกิจโลกหลายๆ ด้านเริ่มดีขึ้น จนมีความหวังกันว่าในปีหน้า 2559 การลงทุนน่าจะสดใสมากกว่าในปีนี้โดยเฉพาะตลาดหุ้น
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมกองทุนรวมในไทยในปี 2588 นักลงทุนต้องปรับพอร์ตออกไปลงทุนในต่างประเทศกันมากขึ้นตามที่บรรดา บลจ.หลายแห่งพากันแนะนำ พร้อมกับมีกองทุนที่เปิดขาย IPO ซึ่งส่วนใหญ่จะชวนให้ไปลงทุนต่างประเทศ ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐฯ เอเชีย รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ แต่ที่เป็นดาวเด่นและได้รับความสนใจและพูดถึงกันมากช่วงปลายปีคือกองทุนที่ไปลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากประชากรสูงอายุวัยเกษียณ หรือที่เรียกว่า กองทุน “Silver Age” มี บลจ.พากันออกกองทุนนี้มาและเชียร์ให้ลงทุนกันยกใหญ่เพราะบอกว่ามันดีในระยะยาว (เช่นเคย) .....
ก่อนหน้านี้มีกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หรือเฮลท์แคร์ ออกมาและให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีสม่ำเสมอมาตลอด เพราะกองทุนลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรงไม่ว่าจะเป็น บริการทางการแพทย์ อุตสาหกรรมยาที่ใหญ่ๆ ของโลก ธีมการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่มีผู้สูงอายุเท่านั้นใช้บริการเหล่านี้แต่รวมไปถึงกลุ่มคนทุกวัย ... แต่กองทุนที่ออกมาใหม่คือ กองทุน “Silver Age” เขาบอกว่าน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก!! เพราะไม่ได้แค่ลงทุนเกี่ยวข้องกับสุขภาพแต่รวมไปถึงเรื่องของไลฟ์สไตล์ด้วย!!!
สำหรับธีมการลงทุนนี้เขาบอกว่ากลุ่มคนวัยเกษียณมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคนกลุ่มนี้มีเงินมากที่จะใช้จ่ายด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของตนเอง ดังนั้นแล้วจึงบอกกันว่ากองทุนนี้ให้ผลตอบแทนดีมาก!!! และเวลาที่หุ้นตกจะตกน้อยกว่าหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ..!!!
น่าสนใจว่าการลงทุนนี้จะให้ผลตอบแทนดีขนาดไหน เมื่อมองดูพอร์ตการลงทุนในกองทุนนี้จะเห็นว่าส่วนใหญ่ก็ลงทุนอยู่ในประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น แทบทั้งนั้น กองทุน “Silver Age” จะน่าสนใจมากกว่ากองทุนหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น แค่ไหนเพราะหุ้นที่ลงทุนก็เป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเหมือนกันเพียงแต่เลือกเน้นหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพรวมไปถึงการเงิน ประกันด้วย กล่าวคือ จะเน้นลงทุนเฉพาะอุตสาหกรรมเท่านั้น (Sector) แล้วปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในกลุ่มนี้มีความแข็งแกร่งแค่ไหนหากตลาดหุ้นปรับตัวลง แม้ว่าชื่อเสียงของบริษัทจะดีเป็นที่รู้จักกันก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความผันผวนตามภาวะตลาด
ขณะเดียวกัน แม้ว่ากลุ่มประชากรสูงอายุวัยเกษียณจะมีจำนวนมากขึ้นอย่างที่นำเสนอมา แต่หากกลุ่มเหล่านี้มีการใช้จ่ายบริโภคไม่ได้เพิ่มมากขึ้นหรือใช้จ่ายลดลงทั่วไปตามกำลังซื้อจะกระทบต่อกองทุนเหล่านี้หรือไม่ และแนวโน้มที่บอกว่าต่อไปประชาชนสูงวัยจะเพิ่มมากขึ้นหุ้นในกลุ่มนี้จะเติบโตเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ถ้าอย่างนั้นกำลังซื้อก็มาจากกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้บวกกับการบริโภคใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้ทั่วไปตามปกติ ฉะนั้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอื่นๆ ในประเทศพัฒนาแล้วก็ยิ่งเติบโตเพิ่มขึ้นไปอีกและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นกลุ่ม “Silver Age” ใช่หรือไม่ ..? และถ้าตลาดหุ้นตกกลุ่ม “Silver Age” ก็ตกตามไปเช่นกัน จะตกมากกว่าหรือไม่นั้นไม่อาจรู้ได้
เพราะตลาดหุ้นก็คือตลาดหุ้น แรงขายทำกำไรย่อมมีมาเมื่อผลตอบแทนสูง หุ้นกลุ่มนี้จะแข็งแกร่ง ให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่นในประเทศพัฒนาแล้วแค่ไหน เพราะบริษัทที่มีพื้นฐานดีกำไรดียังประสบปัญหาได้เมื่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจ และเนื่องจากเป็นการลงเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมด้วยแล้ว มีปัจจัยเสี่ยงอะไรอื่นอีกที่นักลงทุนไทยยังไม่ทราบ? หรือจนกว่ากองทุนจะมีผลการดำเนินงานขาดทุน ในตอนนี้ก็เห็นแต่ข้อมูลดีๆ แนวโน้มที่ดี และแรงเชียร์จาก บลจ.
กองทุนที่ออกใหม่เพื่อดึงเงินลูกค้ามักมาด้วยข้อมูลในอดีตที่ดีและน่าสนใจ ตัวผู้ลงทุนเองเมื่อเห็นมีกองทุนออกมาใหม่พร้อมแรงเชียร์ก็ไม่อยากพลาดโอกาสตกขบวนลงทุนกัน เพราะเห็นตัวเลขผลตอบแทนในอดีตที่เอามาโชว์ ... จนบางคนอาจลืมมองไปว่าสไตล์การลงทุนของตนเองเป็นอย่างไร หรือลืมไปว่าวางแผนการลงทุนไว้อย่างไรก่อนหน้านี้ .... การลงทุนก็มีความผันผวนตามเศรษฐกิจมากพออยู่แล้วต้องปรับพอร์ตกระจายเงินลงทุนกันให้ทันสถานการณ์ และกองทุนก็มีให้เลือกตั้งมากมายก่ายกองแถมมี “ดวงดาว” ประดับไว้การันตีผลงานอีกต่างหาก! ... กองที่เป็นโอกาสในตอนนี้ไม่มีหรือ? มีแต่กองที่ออกใหม่ที่คนขายบอกว่าต้องจังหวะนี้ ต้องกองทุนนี้!! จนผู้ลงทุนอาจสับสนเพราะก่อนหน้าก็เพิ่งเชียร์ให้ลงทุนกองนั้นไป ตอนนี้มีของใหม่มาขายมาเชียร์อีกละ!!!
ตัวอย่างบาดแผลที่ได้มาจาก “พญามังกร” ของหลายๆ ท่านเมื่อไม่นานมานี้ บลจ.พาเงินลงทุนของคนไทยออกไปลงทุนกัน เพราะบอกว่ามันดีมากกกกก!!!! ราคาหุ้นถูกมาก!! มีการเติบโตที่สูงมาก!!! แต่จากวันนั้นถึงวันนี้พอร์ตการลงทุนของหุ้นจีนเป็นอย่างไรกันบ้างล่ะ.. ?? และดูเหมือนว่าตอนนี้บรรดา บลจ.ไม่ส่งเสียงเชียร์ให้น้ำหนักกองทุนหุ้นจีนกันเหมือนเมื่อหลายปีก่อนที่ส่งเสียงมั่นอกมั่นใจกันมาก .....
การลงทุนเมื่อได้ผลตอบแทนดีก็มีความสุขกันไป แต่เมื่อขาดทุนแล้วละก็ บลจ.เขาให้คำตอบกลับมากันอย่างไรบ้าง ท่านๆ ทั้งหลายก็คงได้คำตอบกันไป!!
