เงินล้านสร้างได้...กับกองทุนรวม

คอลัมน์ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม
โดย คุณศรชัย สุเนต์ตา
รองกรรมการผู้อำนวยการและ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน
กลุ่มจัดการลงทุน
บลจ.ไทยพาณิชย์

“เริ่มลงทุนเร็ว สร้างเงินล้านได้เร็ว” / “ออมเยอะๆ ก็ได้เงินล้านเร็วๆ” / “มีวินัยออมเงิน ทำเงินล้านได้ทันใจ”

ข้อสรุปข้างต้นเป็นสิ่งที่ผู้อ่านสามารถพบได้ทั่วไปตามหนังสือหรือบทความที่สนับสนุนให้ทุกคนออมเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคตหรือใช้จ่ายได้ตามเป้าหมายที่วาดหวังไว้ แล้วหนทางใดบ้างที่จะสรรค์สร้างโอกาสเช่นนี้ให้แก่ท่านผู้อ่านได้ตามเป้าหมาย จากหัวข้อวันนี้ จึงขอนำมาใช้เป็นโอกาสในการนำเสนอว่า กองทุนรวมจะตอบโจทย์เรื่องการสร้างเงินล้านได้อย่างไร

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า สินทรัพย์ที่กองทุนรวมมักจะลงทุนก็หลีกหนีไม่พ้น เงินฝาก ตราสารหนี้ และหุ้น ทั้งในและต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้นการเลือกออมเงินผ่านกองทุนรวมจึงต้องอาศัยความเข้าใจสินทรัพย์ที่ลงทุน ผู้อ่านคงทราบว่าไม่มีสินทรัพย์อะไรให้ผลตอบแทนสูงๆ ได้ตลอดไป และไม่สามารถที่จะจับจังหวะซื้อถูกขายแพงเพียงอย่างเดียวได้ถูกทุกครั้ง

จากการศึกษาข้อมูลในอดีต การลงทุนในระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนที่ดีคือการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากผลตอบแทนของหุ้นเฉลี่ยในระยะยาวให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ปกป้องคุ้มครองเงินต้นเพียงอย่างเดียว การลงทุนในกองทุนรวมจึงมีข้อดีเช่นนี้เอง เพราะว่าเป็นการสร้างวินัยไม่ให้คิดที่จะมองแต่ผลตอบแทนระยะสั้น แต่ให้ถือครองไว้เป็นระยะเวลานานๆ ลองคำนวณดูว่าหากกองทุนให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 5% และเพิ่มการออมอีกปีละ 5% หากท่านผู้อ่านกำหนดเงินลงทุนเริ่มแรกไว้เดือนละ 1,000 บาท และออมเพิ่มปีละอีก 5% (ในปีที่ 2 ออมเดือนละ 1,050 บาท

ปีที่ 3 ออมเดือนละ 1,102.50 บาท เป็นต้น เป็นประจำสม่ำเสมอทุกเดือนตลอดระยะเวลา 20 ปี ก็จะมีโอกาสได้เงินประมาณ 1.18 ล้านบาทแล้ว (และหากฝากเงินเริ่มต้นไว้เดือนละ 10,000 บาท ก็จะมีโอกาสได้เงินประมาณ 11.8 ล้านบาทเลยทีเดียว)

สิ่งสำคัญของการสร้างเงินล้านนี้ คือความเชื่อมั่นว่าการลงทุนในกองทุนรวมในระยะยาวนั้นจะให้ผลตอบแทนโดยรวมดีกว่าถือเงินสดที่ปกป้องเงินต้น และดีกว่าการรอจังหวะเข้า-ออกจากการลงทุนเป็นครั้งๆ ไป หากตั้งเป้าว่าจะลงทุนเดือนละ 1,000 บาท ก็ควรที่จะรักษาวินัยการลงทุนนั้นไว้อย่างสม่ำเสมอ และเงินลงทุนก้อนนี้ควรแยกออกจากเงินที่เก็บรักษาไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้พลาดเป้าหมายการลงทุนที่คาดหวังไว้ในอนาคต

กลยุทธ์การเลือกกองทุนรวมก็มีส่วนสำคัญ กล่าวคือ ควรเลือกหากองทุนที่มีวัตถุประสงค์การลงทุนสอดคล้องกับเป้าหมายผลตอบแทนในระยะยาว หรือเลือกกองทุนที่มีกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงที่ดี

ยกตัวอย่าง กองทุนเปิดไทยพาณิชย์สมาร์ทแพลน (SCBSMART) ซึ่งเป็นกองทุนที่กระจายความเสี่ยงด้านการลงทุนไปทั้งตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยวางพอร์ตโฟลิโอหลักเพื่อเป้าหมายผลตอบแทนในระยะยาว และเปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนจับจุดการลงทุนตามวัฏจักรทางเศรษฐกิจว่าสินทรัพย์ประเภทไหน (ตราสารหนี้ หุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน)

หรือประเทศไหน (ประเทศในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา) ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนได้ดีในบางช่วงได้บ้างเพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยรวม เช่นในช่วงที่ผ่านมากองทุนมีการเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ยุโรป ซึ่งช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้ดีและช่วยกระจายความเสี่ยงของการลงทุนดีกว่าการลงทุนเฉพาะในประเทศไทย จึงนับว่าเป็นกองทุนที่ช่วยบริหารผลตอบแทนทั้งการวางพอร์ตระยะยาวและการจัดกลยุทธ์การบริหารเงินระยะสั้น ที่เชื่อว่าน่าจะช่วยตอบโจทย์เป้าหมายเงินล้านของผู้อ่านได้กองทุนหนึ่ง

เงินล้านสร้างได้จริง หากมีความตั้งใจและตั้งเป้าหมายของการลงทุนอย่างชัดเจนและมีวินัยการลงทุน รวมถึงมีความมุ่งมั่นและมีกำลังใจที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายของการลงทุนนั้น และขอเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านทุกท่านได้จับเงินล้านกันในเร็ววันด้วยครับ