xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงไทยส่งกองบอนด์ระยะสั้น ชูผลตอบแทน 2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทยเพิ่มทางเลือกช่วงดอกเบี้ยขาลง เสิร์ฟ 2 กองทุนอายุ 6 เดือน ชูผลตอบแทน 2%

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ในประเทศค่อนข้างผันผวนในช่วง -1.80 bps ถึง +0.30 bps ตามแรงซื้อ-ขายของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยตราสารหนี้อายุคงเหลือตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8-9.6 bps

ขณะที่ตราสารหนี้อายุคงเหลือ 11 ปี มีผลตอบแทนปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดตามแรงขายของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงการถือครองจากการที่ตลาดลดความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการประชุมวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไว้ที่ระดับ 1.5% ต่อปี ส่งผลให้นักลงทุนขายตราสารหนี้ระยะยาวและนำเงินกลับมาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามคือทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรต่างประเทศ

สำหรับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ระหว่าง -3 bps ถึง +2 bps โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps มาอยู่ที่ 0.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.75% ต่อปี ไม่เปลี่ยนแปลง และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง -2 bps มาอยู่ที่ 2.39% ต่อปี ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ ความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นช่วงขาขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกประจำปี 2558 ของธนาคารโลก โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือความวิตกของตลาดเกี่ยวกับกรณีหนี้กรีซ นักลงทุนจึงหันมาลงทุนในพันธบัตร ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 3 (KTSIV6M3) และกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 17 (KTFFE17) เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนการลงทุนที่มีโอกาสสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมาก โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดยังคงทรงตัวอยู่ที่ 1.5% ต่อปี

สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 6 เดือน 3 (KTSIV6M3) มีความโดดเด่นด้วยอายุกองทุนระยะสั้นประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 1.5% ต่อปี บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ บัตรเงินฝาก ตราสารหนี้ธนาคารพาณิชย์และเอกชนในประเทศ ได้แก่ บมจ.หลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บมจ.บัตรกรุงไทย บมจ.อีซี่ บาย และ บจ.โตโยต้า ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) โดยรวมแล้วกองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ (ระดับ 4) เสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป หรือขั้นต่ำที่ 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 มิถุนายนนี้

ส่วนกองทุนกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 17 (KTFFE17) มีอายุกองทุนระยะสั้นประมาณ 6 เดือนเช่นกัน ผลตอบแทนประมาณ 2% ต่อปี บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ประกอบด้วย ตราสารหนี้ต่างประเทศ MTN ออกโดย Banco ABC (Brazil), Banco BTG Pactual S.A., MTN ออกโดย Banco Santander (Brasil) S.A., MTN ออกโดย Turkiye IS Bankasi A.S. และ MTN ออกโดย Turkiye Vakiflar Bankasi TAO เสนอขายผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง หรือลงทุนขั้นต่ำมูลค่า 500,000 บาท

กองทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ (ระดับ 4) และมีการทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่สามารถคาดการณ์ผลตอบแทนได้และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้บ้าง เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2558


กำลังโหลดความคิดเห็น