xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นจีนยังมีโอกาสเติบโตสูง กรุงไทยแนะเก็บอีทีเอฟ CHINA

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงไทยประเมินหุ้นจีนยังมีโอกาสเติบโตสูง นักวิเคราะห์คาดกำไรต่อหุ้นปีนี้จะเติบโตได้ 23% พร้อมชูกองทุน “ดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์” หรือ CHINA น่าลงทุน โชว์ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 46.40% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 66.23% และ YTD อยู่ที่ 18.65%

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยของ บลจ.กรุงไทย รายงานว่า จีนมีการผ่อนคลายนโยบายทางเศรษฐกิจเพื่อเรียกความเชื่อมั่น โดยธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.25% เหลือ 5.35% ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินในเศรษฐกิจลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มบริษัทที่มีสัดส่วนการกู้ยืมในระดับที่สูง นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้ปรับลดอัตราส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงเหลือ 19.5% เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มากขึ้น และผ่อนคลายนโยบายการคลังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าที่จะขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นเป็น 2.3% ของ GDP และคาดว่าในปีนี้ GDP จะขยายตัวประมาณ 7%
        
นอกจากนี้ คาดว่าในปีนี้สภาพคล่องจะไหลเข้ามาในจีนมากขึ้นจากปัญหา Shadow Banking ด้วยการระดมเงินทุนผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือ Wealth Management Product (WMP) ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ เงินที่ได้จากการระดมทุนผ่าน WMP จะนำไปลงทุนในภาคส่วนต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจ และในภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่ดี โดยในปี 2014 ให้ผลตอบแทนถึง 52.87% และในปี 2015 YTD (นับตั้งแต่ต้นปีถึง 27 มีนาคม 2558) ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 14.11%

ขณะที่ Valuation ในหุ้นจีนยังถูก และมีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมี P/E ที่ 14.1 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่กำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตในระดับที่สูง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในปี 2015 จะเติบโตได้ 23%      

นางชวินดา กล่าวว่า กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (CHINA) เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่น่าสนใจและติดอันดับ 1 ใน 5 ของกองทุนที่มีผลตอบแทนดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2558 เนื่องจากกองทุนนี้เข้าไปลงทุนในกองทุนรวมหลัก W.I.S.E -CSI 300 China Tracker ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี CSI 300 โดยกระจายการลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่และซื้อขายสกุลเงินหยวน (A-Share)

ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจกระจายการลงทุน กองทุน China นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ และเป็นกองทุนเดียวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ลงทุนในหุ้นจีน A-Share โดยผลตอบแทนของกองทุน China ณ วันที่ 27 มีนาคม 2558 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 46.40% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 66.23% และ YTD อยู่ที่ 18.65% โดยเกณฑ์มาตรฐาน AIMC ซึ่งคำนวณจากผลตอบแทนของกองทุน W.I.S.E - CSI 300 China Tracker ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 47.23% ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 68.87% และ YTD อยู่ที่ 19.26%

นางชวินดา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 12 (KTFFE12) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 21 เมษายน 2558 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท เงินฝากประจำ Turkiye Garanti Bankasi AS, เงินฝากประจำBank of China, MTN ออกโดย Banco ABC (Brasil ) และ MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A. ในสัดส่วน 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.บัตรกรุงไทย ผลตอบแทนประมาณ 2.35% ต่อปี ไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย   


กำลังโหลดความคิดเห็น