เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนผสม ลงทุนธุรกิจการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพทั่วโลก ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการร้อยละ 5 ภายใน 5 เดือน เปิดขายถึง 26 มิถุนายน 2558
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สมาร์ท เวลเนส ซีรี่ส์ 1 (MWELL 1) มีนโยบายลงทุนทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ในไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยจะลงทุนตราสารทุนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพ ได้แก่ ด้านสุขภาพและการแพทย์ ด้านเวชภัณฑ์และอาหาร ด้านการเงิน ประกันภัยและประกันชีวิต และด้านการกีฬา ท่องเที่ยวและสันทนาการ และอาจลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ โดยตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ภายใน 5 เดือน สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท เปิดขายตั้งแต่วันนี้-26 มิถุนายน 2558
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซีมองว่า เป็นโอกาสที่ดีที่จะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพ เนื่องจากโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดย UN คาดการณ์ว่าจำนวนประชากรผู้สูงอายุร้อยละ 10 ในปี 2000 จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 2050 เพราะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทำให้ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น ทำให้อัตราการเกิดโรคที่มากับความชรามีสูงตามไปด้วย อีกทั้งความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับคนชราเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันจำนวนประชากรโลกกว่า 1 ใน 3 หรือ 2 พันล้านคนมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน และกว่า 671 ล้านคนเป็นโลกอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ทำให้บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ด้านผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าวมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์และความต้องการยารักษาโรคต่างๆ ของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดยามีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น
สำหรับกองทุนเปิด MWELL 1 จะทยอยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุน 2 ครั้งภายใน 5 เดือนแรก โดยครั้งแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.35 บาทขึ้นไป บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ไม่ต่ำกว่า 0.30 บาทต่อหน่วยลงทุน และครั้งที่สองเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 10.60 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 105 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว แต่หากเกิน 5 เดือนกองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุน ร้อยละ 5 ต่อไป
