xs
xsm
sm
md
lg

ผู้สูงอายุป่วย 95% เข้าถึงการดูแลรักษาแค่ครึ่งเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ห่วงผู้สูงอายุ 95% ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เข้าถึงบริการแค่ครึ่งเดียว หวั่นเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอดอีก 16 ปี เร่งจัดบริการรองรับ คัดกรองแยกกลุ่มผู้สูงอายุ ส่ง Care Giver ดูแล เน้นใช้ส้วมนั่งราบ ดูแลช่องปากตัวเอง จัดบริการใกล้บ้าน

วันนี้ (23 มี.ค.) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจสภาวะสุขภาพผู้สูงอายุไทยปี 2556 โดยกรมอนามัยร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) พบว่า ผู้สูงอายุมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ เช่น ออกกำลังกายทุกวัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า เพียงร้อยละ 26 เท่านั้น ขณะที่ผู้สูงอายุ 9.2 ล้านคน หรือร้อยละ 95 ป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เข่าเสื่อม ซึมเศร้า ป่วยนอนติดเตียง และ พิการ ซึ่งจำนวนนี้เข้าถึงระบบบริการสุขภาพได้เพียงร้อยละ 57 โดยยังพบว่าผู้สูงอายุร้อยละ 50 มีภาวะอ้วนทำให้เดินลำบาก และพบผู้สูงอายุอยู่คนเดียว 6 แสนคน ทั้งนี้ ประชากรผู้สูงอายุในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปี 2555 มีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปร้อยละ 7.4 คาดว่า ในปี 2564 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ และอีก 10 ปี จะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด คือ มีสัดส่วนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 20

การรองรับสังคมผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และผู้ป่วยในระยะสุดท้ายของชีวิต กรมฯได้คัดกรองเพื่อจำแนกกลุ่มผู้สูงอายุและประเมินความจำเป็นในการจัดบริการสุขภาพ โดยจัดให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care giver) และผู้ดูแลระบบ (Care manager) อย่างเพียงพอในสัดส่วน Care manager 1 คน ต่อ Care giver 5 - 7 คน และ Care giver 1 คน ต่อผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง 5 - 7 คน โดยอบรมการนวดไทยเพิ่มให้ด้วย เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุ ผู้อยู่ในระยะพึ่งพิง และผู้พิการ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนให้ความสำคัญเรื่องโถส้วมแบบนั่งราบ เพื่อป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมจากส้วมแบบนั่งยอง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

นพ.พรเทพ กล่าวว่า กรมฯยังได้สนับสนุนให้ผู้สูงอายุดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง และเข้าถึงบริการได้ง่าย ทันเวลา พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานเครือข่ายบริการปฐมภูมิ ได้แก่ 1. ให้ผู้สูงอายุดูแลช่องปากตนเองผ่านชมรมผู้สูงอายุ หรือ อสม. หรือผู้ดูแล 2. จัดบริการส่งเสริม ป้องกัน รักษาพื้นฐานในหน่วยบริการระดับตำบลซึ่งอยู่ใกล้บ้าน และ 3. ประสานและส่งต่อเพื่อรับการรักษาและใส่ฟันเทียมตามความจำเป็น รวมทั้งติดตามผลการรักษาในชุมชน และเตรียมขยายเครือข่ายฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุทั้งในระดับชุมชน ตำบล และ อำเภอ มีเป้าหมายจำนวน 200 แห่งทั่วประเทศ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น