บลจ.กรุงไทยเตรียมปันผล 5 กองทุนอสังหาฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 5 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.4131 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2026 บาทต่อหน่วย พร้อมลดทุนจดทะเบียนในอัตรา 0.004 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.131 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ (TCIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.177 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ (THIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.126 บาทต่อหน่วย
โดยทั้ง 5 กองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นการจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2558 ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 และประกาศจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2558 ส่วนกองทุน CPTGF จ่ายเงินลดทุน ในวันที่ 16 มิถุนายน 2558 ทั้งนี้ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุน TTLPF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 74 ล้านบาท กองทุน CPTGF จ่ายเงินปันผล จำนวนกว่า 195 ล้านบาท กองทุน TRIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 208 ล้านบาท กองทุน TCIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 391 ล้านบาท และกองทุน THIF จ่ายเงินปันผล จำนวนกว่า 330 ล้านบาท
ส่วนกองทุน TTLPF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โครงการตลาดไท ลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารบางส่วนเป็นเวลา 20 ปี ในโครงการประกอบด้วย อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 21 อาคาร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 170,033.54 ตารางเมตร พร้อมทั้งสาธารณูปโภค งานระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งนี้ กองทุนมีจำนวนผู้เช่าหลายรายทั้งโครงการ และมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,782 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี
ด้านกองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 131,915 ตารางเมตร ได้แก่ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูนทาวน์) และอาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 131,915 ตารางเมตร กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 9,815.05 ล้านบาท ผู้เช่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง มีความหลากหลายในประเภทของธุรกิจ ทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐบาล และกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิ โดยจ่ายปันผลทุกๆ ไตรมาส
สำหรับกองทุน TRIF มีนโยบายลงทุน (freehold) ในศูนย์การค้าจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า บางกะปิ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการตะวันนา และโครงการ โอ.พี.เพลส โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ขณะที่กองทุน TCIF มีนโยบายลงทุน (Freehold) ในอาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ อาคารเอ็มไพร์ อาคารไซเบอร์ เวิร์ลด และอาคาร 208 และสิทธิการเช่าในที่ดิน สำหรับอาคารแอทธินี โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ล้านบาท และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง
นอกจากนี้ กองทุน THIF ลงทุนในโรงแรม จำนวน 12 แห่ง ตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ประกอบด้วย 1) โรงแรมอิมพีเรียล สมุย บีช รีสอร์ท 2) โรงแรมอิมพีเรียล โบ๊ท เฮ้าส์ บีช รีสอร์ท 3) โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค 4) โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต 5) โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ ถ. สุรวงศ์ เขตบางรัก 6) โรงแรมบันยันทรี สมุย 7) โรงแรมวนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย 8) โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 9) โรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน กรุงเทพฯ 10) โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ 11) โรงแรมโอกูระ เพรสทีส กรุงเทพฯ และ12) โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ กองทุนนี้เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ดี มีศักยภาพในการเจริญเติบโตของรายได้ในอนาคต ด้วยทำเลที่ตั้งทั้งอยู่ใจกลางเมือง และเขตธุรกิจในกรุงเทพฯ และรวมถึงต่างจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยกองทุนนี้มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 5 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.4131 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2026 บาทต่อหน่วย พร้อมลดทุนจดทะเบียนในอัตรา 0.004 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.131 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ (TCIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.177 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ (THIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.126 บาทต่อหน่วย
โดยทั้ง 5 กองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นการจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2558 ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 และประกาศจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 มิถุนายน 2558 ส่วนกองทุน CPTGF จ่ายเงินลดทุน ในวันที่ 16 มิถุนายน 2558 ทั้งนี้ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุน TTLPF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 74 ล้านบาท กองทุน CPTGF จ่ายเงินปันผล จำนวนกว่า 195 ล้านบาท กองทุน TRIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 208 ล้านบาท กองทุน TCIF จ่ายเงินปันผลจำนวนกว่า 391 ล้านบาท และกองทุน THIF จ่ายเงินปันผล จำนวนกว่า 330 ล้านบาท
ส่วนกองทุน TTLPF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โครงการตลาดไท ลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารบางส่วนเป็นเวลา 20 ปี ในโครงการประกอบด้วย อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 21 อาคาร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 170,033.54 ตารางเมตร พร้อมทั้งสาธารณูปโภค งานระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งนี้ กองทุนมีจำนวนผู้เช่าหลายรายทั้งโครงการ และมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,782 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี
ด้านกองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 131,915 ตารางเมตร ได้แก่ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูนทาวน์) และอาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 131,915 ตารางเมตร กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 9,815.05 ล้านบาท ผู้เช่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง มีความหลากหลายในประเภทของธุรกิจ ทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐบาล และกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิ โดยจ่ายปันผลทุกๆ ไตรมาส
สำหรับกองทุน TRIF มีนโยบายลงทุน (freehold) ในศูนย์การค้าจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า บางกะปิ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการตะวันนา และโครงการ โอ.พี.เพลส โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ขณะที่กองทุน TCIF มีนโยบายลงทุน (Freehold) ในอาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ อาคารเอ็มไพร์ อาคารไซเบอร์ เวิร์ลด และอาคาร 208 และสิทธิการเช่าในที่ดิน สำหรับอาคารแอทธินี โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ล้านบาท และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง
นอกจากนี้ กองทุน THIF ลงทุนในโรงแรม จำนวน 12 แห่ง ตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ประกอบด้วย 1) โรงแรมอิมพีเรียล สมุย บีช รีสอร์ท 2) โรงแรมอิมพีเรียล โบ๊ท เฮ้าส์ บีช รีสอร์ท 3) โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค 4) โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต 5) โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ ถ. สุรวงศ์ เขตบางรัก 6) โรงแรมบันยันทรี สมุย 7) โรงแรมวนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย 8) โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 9) โรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน กรุงเทพฯ 10) โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ 11) โรงแรมโอกูระ เพรสทีส กรุงเทพฯ และ12) โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ กองทุนนี้เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ดี มีศักยภาพในการเจริญเติบโตของรายได้ในอนาคต ด้วยทำเลที่ตั้งทั้งอยู่ใจกลางเมือง และเขตธุรกิจในกรุงเทพฯ และรวมถึงต่างจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยกองทุนนี้มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ