xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันยังน่าลงทุนหรือไม่ในช่วงครึ่งหลังปี 58

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

รูปประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ
Dr.win@one-asset.com

สวัสดีครับ ราคาน้ำมันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ปรับตัวลดลงมา โดยปัจจุบันราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นได้และยืนเหนือระดับ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับต่ำสุดที่ประมาณ 44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในมุมมองของผม ผมมองว่าราคาน้ำมันในช่วงระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลดลงโดยคาดว่าราคาน้ำมันน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 50-57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ในระยะกลางถึงยาวราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับ 60-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปัจจัยสนับสนุนทั้งในส่วนของอุปสงค์และอุปทานน้ำมันในตลาด เนื่องจากความต้องการบริโภคน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งล่าสุดทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ก็ได้มีการคาดการณ์ของความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งทาง EIA เองก็คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบในปีนี้น่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นแตะระดับ 93 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าที่ระดับ 92 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีโอกาสเพิ่มขึ้นใกล้แตะระดับ 94 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2016

 นำโดยการบริโภคที่ขยายตัวจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเป็นส่วนใหญ่ นำโดยจีน และอินเดีย เป็นหลัก ซึ่งสนับสนุนให้ความต้องการซื้อน้ำมันดิบโลกปรับตัวขึ้นตาม ประกอบกับในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบจะเห็นได้ว่าจำนวนสัญญาการเปิดฐานะของน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (WTI Open Interest) ที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับสิทธิในการซื้อสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ (Call Option Interest) ในตลาดขณะนี้ที่สูงกว่าสิทธิในการขาย (Put Option Interest) รวมทั้งค่าความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ (Oil Volatility) ที่ปรับลดลงตั้งแต่ต้นปี 2558 ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกได้ว่านักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจในการลงทุนในน้ำมันดิบมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปี 2014 ที่ผ่านมา

 ซึ่งเป็นช่วงที่จำนวนสัญญา WTI Open Interest ได้ปรับลดลงและจำนวนสิทธิในการขายได้สูงกว่าสิทธิในการซื้อ รวมทั้งค่าความผันผวนดังกล่าวก็ปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ขณะที่ในส่วนของอุปทานน้ำมันหรือปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเริ่มคงที่มากขึ้นและมีโอกาสปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2/2015 จากฝั่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในกลุ่ม Non-OPEC ที่เริ่มส่งสัญญาณการปรับลดปริมาณน้ำมันดิบ โดยเฉพาะในส่วนของ Shale Oil

 โดยจะเห็นได้จากปริมาณการขุดเจาะน้ำมันที่เริ่มลดลงทั้งในส่วนของการขุดเจาะน้ำมัน (Oil Rigs) และก๊าซธรรมชาติ (Natural Rigs) หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมากในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งซึ่งปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีการผลิตน้ำมันที่ประมาณ 9,384 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่มีการผลิตมากสุดที่ระดับประมาณ 9,400 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ตลาดมองว่าระดับสินค้าคงคลังของน้ำมันน่าจะลดลงตามในระยะถัดไป และสนับสนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ในอนาคต

จาก Sentiment ของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยพื้นฐานที่ปรับตัวได้ดีและมองว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวได้ในระดับ 60-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระยะยาวจากระดับราคาปัจจุบันที่ 55-57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 ทำให้ บลจ.วรรณ เตรียมเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ แอคทีฟ 6/2 ในช่วงระหว่างวันที่ 27 เม.ย.-14 พ.ค. 58 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงระหว่างการพิจารณาจัดตั้งจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีเป้าหมายในการเลิกโครงการที่ผลตอบแทน 6% ภายในเวลา 6 เดือน โดยกองทุนฯ จะเน้นการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน (WTI Oil Futures) ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับความนิยมและมีสภาพคล่องสูงซึ่งสามารถทำการซื้อขายได้เกือบทั้งวัน

 ทำให้กองทุนฯ สามารถติดตามสถานการณ์การลงทุนได้อย่างใกล้ชิดและสามารถจับจังหวะการลงทุนโดยซื้อขายระหว่างทางได้ในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นลงได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากภาวะราคาน้ำมันในช่วงนี้ได้ดี โดยหากนักลงทุนสนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และสนับสนุนธุรกิจที่หมายเลข 0-2659-8888 ต่อ 1 ครับ

การวัดผลการดำเนินงานจัดทำตามเกณฑ์มาตรฐานของทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


กำลังโหลดความคิดเห็น