xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้ชี้ไอโฟน 6 หนุน แนะช้อนหุ้นเอเชียช่วงปรับฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทิสโก้ชี้จังหวะดีช้อนหุ้นต่างประเทศช่วงปรับฐาน หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ระบุระยะยาวหุ้นเอเชียเหนือได้รับอานิสงส์เพียบทั้งการส่งออก และมูลค่าหุ้นที่ยังถูก ขณะที่สถานการณ์ในฮ่องกงเชื่อกระทบแค่ระยะสั้นเท่านั้น

นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำในขณะนี้ยังคงเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นหลัก โดยเฉพาะตลาดหุ้นในต่างประเทศ แม้ว่าภาพรวมจะมีมุมมองว่าในระยะสั้นตลาดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะปรับฐานจากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แต่ในระยะยาวยังเชื่อว่าตลาดหุ้นยังจะให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เนื่องจากวัฏจักรการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะยังคงสนับสนุนการเติบโตของกำไรต่อไป

ส่วนตลาดที่น่าสนใจในปัจจุบันบริษัทให้น้ำหนักการลงทุนใน “ตลาดหุ้นเอเชียเหนือ” (จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลีใต้) โดยเชื่อว่าจะได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากการเปิดตัว iPhone 6 โดยเฉพาะจากจีนและไต้หวัน ซึ่งมีปัจจัยบวกจากการเปิดตัวของอุปกรณ์สื่อสาร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่ม Smartphone/ Tablet/ Wearablesต่างๆ

“ยอดขาย iPhone ทุกเครื่องที่ไม่ได้ขายในประเทศจีนจะถูกนับรวมเป็นยอดส่งออกจากจีน และชิ้นส่วนต่างๆ ที่ถูกผลิตจากไต้หวันจะนับรวมเป็นยอดส่งออกของไต้หวันไปสู่จีน นักวิเคราะห์คาดว่าการเปิดตัว iPhone 6 จะเพิ่มยอดการส่งออกของจีนราว 1% และไต้หวันราว 2% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยกำไรของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะในไต้หวัน เนื่องจากตลาดหุ้นไต้หวันมีสัดส่วนอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รวมถึง 46% ของมูลค่าตลาด” นายคมศรกล่าว

นายคมศรกล่าวอีกว่า นอกจากอานิสงส์จากการส่งออกแล้วตลาดหุ้นเอเชียถือเป็นตลาดที่มี Valuation ที่น่าสนใจ โดยตลาดหุ้นเอเชียเริ่มปรับตัวขึ้นและ Outperform ตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว และทำให้ส่วนต่างของค่า P/E ระหว่างตลาดเอเชีย เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลดลงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดีค่า P/E ของตลาดหุ้นในเอเชียยังต่ำกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอยู่อีกมาก โดยในปัจจุบันดัชนี MSCI EM FarEast (ตลาดหุ้นเอเชีย) ซื้อขายที่ 12M Forward P/E ที่ 11.2 เท่า เทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ 15.7 เท่า และยุโรปที่ 14.3 เท่า หรือคิดเป็นส่วนลดที่ 30% และ 23% ตามลำดับ ซึ่งยังถือเป็นส่วนลดที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 15% และ 0%

“กรณีประท้วงในฮ่องกงที่ยังมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของฮ่องกง ทำให้นักลงทุนมีความกังวลจนทำให้ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เราประเมินว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น และเมื่อปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วก็จะทำให้ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง” นายคมศรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น