ทิสโก้ส่ง “ทริกเกอร์” รับเอเชียเหนือโต ชี้ประท้วงในฮ่องกงกระทบช่วงสั้น

ทิสโก้ยังมองหุ้นเอเชียเหนือโดดเด่น ตลาดหุ้นมีเติบโตต่อเนื่องและราคาที่ยังถูก ส่ง “นอร์ธ เอเชีย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 9% #3” เปิดไอพีโอ 2-10 ต.ค. ขณะที่การประท้วงในฮ่องกงเป็นแค่ปัจจัยระยะสั้น

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ เปิดเผยว่า ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) ยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ (ไต้หวัน จีน ฮ่องกง และเกาหลีใต้) โดยความน่าสนใจอยู่ที่ประเทศกลุ่มเอเชียเหนือมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดหุ้นมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับราคาหุ้นที่ยังค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจและฐานะการเงินการคลัง ซึ่งจะช่วยให้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือเติบโตได้อีกมาก ส่วนกรณีที่ตลาดหุ้นฮ่องกงดัชนีมีการปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ โดยทิสโก้ เวลธ์ ประเมินว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้น และเมื่อคลี่คลายแล้วจะทำให้ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นในจังหวะที่ตลาดหุ้นย่อตัวจึงทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือมีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ จากความโดดเด่นของตลาดหุ้นเอเชียเหนือ และเพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม บลจ.ทิสโก้จึงได้เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ นอร์ธ เอเชีย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 9% #3” ที่ลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ในรูปแบบกองทุนทาร์เกตฟันด์ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน จากความโดดเด่นของเศรษฐกิจเอเชียเหนือที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งทางด้านฐานะการเงินการคลัง ประกอบกับราคาหุ้นที่ยังค่อนข้างถูก ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือในปีนี้ยังมี Upside สูงถึง 20-30% โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 9% ภายในระยะเวลา 9 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากนั้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์ต่างประเทศและรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้ โดยมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ตั้งแต่วันที่ 2-10 ต.ค. 57 นี้

“เรามีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเหนือตั้งแต่ต้นปีและแนะนำให้ลงทุนในเอเชียเหนือมาโดยตลอด เนื่องจากเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ที่จะหนุนภาคการส่งออกให้เติบโตได้ดี ขณะราคาหุ้นยังถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศอื่นๆ และแม้หนึ่งในประเทศกลุ่มเอเชียเหนืออย่างฮ่องกง จะกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ และส่งผลให้ดัชนี Hang Seng Index ปรับตัวลดลง แต่มองว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นเพียงทางด้านจิตวิทยา แต่พื้นฐานของตลาดหุ้นฮ่องกง และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโต ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงน่าจะกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น หากนักลงทุนคลายความกังวลก็จะทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง ดังนั้นในช่วงที่ราคาหุ้นเอเชียเหนือยังถูก เราจึงมองว่าเป็นจังหวะเข้าลงทุน และมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นเคยด้วยผลงานการบริหารกองทุนที่โดดเด่นของทิสโก้นั่นเอง” นายสาห์รัชกล่าว

โดย บลจ.ทิสโก้ยังคงประสบความสำเร็จในการบริหารกองทริกเกอร์ฟันด์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริหาร "กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 3" เข้าเป้าหมาย โดยกองทุนดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8% โดย NAV อยู่ที่ 10.8007 บาทต่อหน่วย จึงเข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการ เหตุเพราะหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.8000 บาทต่อหน่วย ณ วันทำการใด โดยใช้ระยะเวลาเพียง 7 เดือนนับจากวันจัดตั้งกองทุน ซึ่งเป็นผลมาจากมุมมองที่แม่นยำ และการจับจังหวะลงทุนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นความชำนาญเฉพาะตัวของทิสโก้ โดยในช่วงที่ออกกองทุนเรามองว่าสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าผลกำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตอย่างโดดเด่น และมี Upside ในระดับที่น่าสนใจลงทุน ซึ่งทำทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดทำให้สามารถปิดกองทุนได้ก่อนครบอายุโครงการ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการบริหารกองทุนและผู้นำด้านการลงทุนในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี