xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นกิมจิ หลังหุ้นไทยอัปไซด์น้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทิสโก้แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นต่างประเทศหลังหุ้นไทยทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นไประดับหนึ่งแล้ว ระบุเกาหลีใต้น่าสนใจสุด รอรับอานิสงส์เพียบ ทั้งความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ และนโยบายของภาครัฐ ล่าสุดจ่อเปิดขายกองทุนใหม่เพิ่ม แต่ยังไม่มีกำหนดช่วงเวลา

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ดันชีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นนั้น ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนทิสโก้เวลธ์จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยยังคงให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายของปีนี้ที่ 1,590 จุด ทำให้ราคาหุ้นถือว่าอยู่ในระดับที่แพงและแทบไม่มีอัปไซด์แล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศที่แนะนำลงทุนคือ “ตลาดหุ้นเอเชียเหนือ” ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และฮ่องกง ซึ่งยังมีพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของเอเชีย นับว่ามีความน่าสนใจมากในเวลานี้

โดยล่าสุด ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BoK) มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยการปรับเพิ่มวงเงินกู้ให้กับธุรกิจ SMEs อีก 3 ล้านล้านวอน เป็น 15 ล้านล้านวอน และคาดว่า BoK มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps เป็น 2.25% ขณะที่ตลาดเริ่มคาดการณ์การลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยค่าเงินวอนอ่อนตัวลงราว 2% และดัชนี KOSPI ปรับตัวขึ้นราว 2% จากต้นเดือน ก.ค. ทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้มีความน่าสนใจลงทุนมากขึ้น

“จากความโดดเด่นของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บลจ.ทิสโก้จึงเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีใต้อีกอย่างต่อเนื่องในเร็วๆ นี้ หลังจากที่เสนอขายไปแล้วถึง 3 กอง และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม” นายสาห์รัชกล่าว

นายสาห์รัชกล่าวอีกว่า นอกจากการลงทุนในต่างประเทศแล้ว ผลงานของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่บริษัทเปิดขายไปในช่วงที่ผ่านมายังได้รับผลดีจากการปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นไทย โดยล่าสุด หลังจากที่ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทริกเกอร์หุ้นไทยสามารถสร้างผลตอบแทนเข้าเป้าหมายถึง 2 กองในวันเดียวกัน ได้แก่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 11” ที่กำหนดเป้าหมายเลิกโครงการไว้ที่ 8% โดย NAV ณ วันที่ 23 ก.ค. 57 อยู่ที่ 10.8481 บาทต่อหน่วย ซึ่งเข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการ และอีกกองคือ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ไดนามิก ทริกเกอร์ 10% #1” ที่กำหนดเป้าหมายการจ่ายผลตอบแทน 2 ครั้ง เมื่อกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ทุกๆ 5% โดย NAV ณ วันที่ 23 ก.ค. 57 อยู่ที่ 10.5796 บาทต่อหน่วย ซึ่งเข้าเงื่อนไขการจ่ายคืนผลตอบแทนครั้งแรก ซึ่งถือเป็นอีกผลงานที่พิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของทิสโก้ได้เป็นอย่างดี

“ช่วงที่เราเสนอขายกองทริกเกอร์หุ้นไทยทั้ง 2 กองเป็นช่วงที่หุ้นไทยปรับฐานจากความกังวลทางการเมือง หุ้นพื้นฐานดีหลายตัวมีราคาที่ไม่สูงนัก เราจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน ซึ่งหลังจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ดัชนีหุ้นไทยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามที่คาด จนถึงระดับเป้าหมายการเลิกโครงการที่ 8% และการจ่ายผลตอบแทนรอบแรกที่ 5% ของทั้ง 2 กองในที่สุด และจากดัชนีหุ้นไทยที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่หยุดนี้ ทำให้เราเชื่อมั่นว่ากองทริกเกอร์หุ้นไทยของเราที่ยังอยู่ในอายุโครงการจะทยอยเข้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่องอีกเช่นกัน”



กำลังโหลดความคิดเห็น