บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มองเศรษฐกิจไทยชะลอตัว แนะลงทุนตราสารหนี้ 6 เดือน เพิ่มผลตอบแทนในภาวะดอกเบี้ยต่ำ ส่งกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M17 ลงทุน 6 เดือนรับผลตอบแทนประมาณที่ 3.05% ต่อปี เปิดขาย 27-29 ม.ค. นี้
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่านโยบายการเงินแบบผ่อนปรนในปัจจุบันยังคงเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทยที่ยืดเยื้อก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว ดังนั้น เราคาดการณ์ว่าภาวะดอกเบี้ยไทยจะคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรืออาจมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมของ กนง.ครั้งต่อไป
ทั้งนี้ บลจ.กำลังเปิดขาย กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เอ็นแฮนซ์ ตราสารหนี้ 6M17 (CIMB-PRINCIPAL EFI 6M17) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคธนาคาร และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ส่วนที่ลงทุนในต่างประเทศจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedging) โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ที่ลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของ NAV กองทุน CIMB-PRINCIPAL EFI 6M17 ประมาณการผลตอบแทนที่ 3.05% ต่อปี โดยเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 27-29 มกราคม 2557
โดย บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ เนื่องจากกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับความผันผวนของตลาดหุ้นและสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ และรวมถึงการที่สำนักวิจัยหลายแห่งมองว่าอัตราดอกเบี้ยไทยมีโอกาสปรับลดลงได้อีกในอนาคต ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจจะพิจารณาเลือกลงทุนเพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนในระดับดังกล่าวไว้และนับเป็นการบริหารจัดการทางการเงินส่วนบุคคลได้เป็นอย่างดี