บลจ.ประเมินการชุมนุมทางการเมืองจะยืดเยื้อ หลังยังไม่เห็นทางออกจากภาครัฐ และแกนนำผู้ชุมนุม คาดกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก แนะนักลงทุนพักเงินในสินทรัพย์เสี่ยงน้อยรอจังหวะเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
นายสมชัย อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ ตอนนี้เราประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะยืดเยื้อ ส่งผลให้กิจกรรมที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจนั้นชะลอตัว ซึ่งเป็นปัจจัยลบกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาตัวเลขสำคัญๆ ทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศนั้นอ่อนแอ เมื่อมีเหตุการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมส่งผลให้การเติบโตภายในประเทศชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ในส่วนของภาครัฐนั้นเราพบว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ในช่วง 2 เดือนนั้นมีการเบิกจ่ายเพียงแค่ 2% ส่งผลให้แผนการใช้จ่ายของภาครัฐชะลอออกไป
อย่างไรก็ตาม หากติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะพบว่าปัญหาดังกล่าวกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาทิ การชุมนุมทางการเมืองในปี 2553 จะพบว่าช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2553 นั้น GDP ติดลบ แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายไตรมาสถัดมาเศรษฐกิจก็ปรับตัวดีขึ้น
นายสมชัยกล่าวต่อว่า เราประเมินว่าเหตุการณ์การชุมนุมในครั้งนี้อาจจะยืดเยื้อ ซึ่งคงต้องติดตามสถานการณ์และประเมินเหตุการณ์วันต่อวัน ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามว่าทางรัฐบาลและแกนนำผู้ชุมนุมจะมีท่าทีอย่างไร และมีโอกาสและมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะมีการเจรจาและตกลงกันได้หรือไม่
ขณะที่แหล่งข่าวจากแวดวงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรายหนึ่งกล่าวกับ ASTVผู้จัดการว่า เราประเมินว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นจะยืดเยื้อเพราะรัฐบาลก็ยังเดินหน้าต้องการจัดการเลือกตั้ง ในขณะที่ผู้ชุมนุมเองก็ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งเราก็ยังมองไม่เห็นทางออกของปัญหาว่าจะออกมาในรูปแบบใด เพราะต่างฝ่ายก็ยังยึดมั่นในความคิดและอุดมการณ์ของตนเอง
“สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลกันก็คือ หากเกิดความรุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกนี้เศรษฐกิจอาจจะปรับตัวลดลง สำหรับนักลงทุนที่กังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็แนะนำให้พักเงินในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อย เช่นกองทุนตราสารหนี้ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ก็แบ่งเงินไปลงทุนในกองทุน FIF โดยเฉพาะตลาดพัฒนาแล้ว ส่วนนักลงทุนที่เป็นนักลงทุนระยะยาวกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็ยังน่าสนใจอยู่” แหล่งข่าวกล่าว
ทางด้านนายสุรสีห์ จงไชโย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศเป็นปัจจัยลบที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์ที่เคยให้ผลตอบแทนสูง เช่น ตราสารทุนไทย การเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำจึงมีความน่าสนใจ ประกอบกับความเสี่ยงที่ กนง.อาจมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 การพักการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ เพื่อรอดูทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อไปเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของตลาดหุ้นเอง ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ก็ยืนยันที่จะเปิดทำการซื้อขายตามปกติทุกวัน และมีมาตรการรองรับหากผู้ชุมนุมเข้ามาปิดล้อมที่สำนักงาน