xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ชวนเพิ่มลงทุนนอก ชี้ “ศก.-การเมือง” กดดันลงทุนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทยชวนเพิ่มน้ำหนักลงทุนต่างประเทศหนีความผันผวนในประเทศ พร้อมจัดโปรโมชันรับหน่วยลงทุน 1,000 บาททันทีเมื่อลงทุนครบ 1 ล้านบาท ระบุการเมืองและเศรษฐกิจไทยยังกดดันภาวะการลงทุน ส่วนต่างประเทศแนวโน้มแจ่ม เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยากแนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในประเทศ หรืออาจขยายการลงทุนเพิ่มเติมไปยังต่างประเทศเพื่อช่วยลดความผันผวนและเป็นการกระจายความเสี่ยง รวมถึงโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าดึงดูดจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

สำหรับกองทุนที่บริษัทอยากแนะนำ และมีการส่งเสริมการขายอยู่ในปัจจุบัน ประกอบด้วยกองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) และกองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) โดยผู้ลงทุนที่มียอดซื้อสะสมในกองทุนดังกล่าวในระหว่างวันที่ 2-31 มกราคม 2557 สามารถนำยอดซื้อรวมทุกๆ 1 ล้านบาทมารับเป็นหน่วยลงทุน K-Money มูลค่า 1,000 บาท ได้ฟรีทันที แต่สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

ทั้งนี้ จุดเด่นของกองทุนต่างประเทศที่บริษัทแนะนำและได้จัดเตรียมโปรโมชันพิเศษในเดือนมกราคมนี้ มีความหลากหลายและจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ

โดยกองทุน K-GA จะลงทุนผ่านกองทุนหลัก BGF- Global Allocation Fund บริหารจัดการโดย BlackRock Investment Management โดยกองทุนหลักได้รับการจัดอันดับ Rating 4 ดาวจาก Morningstar มีนโยบายการลงทุนโดยเน้นการกระจายการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้กว่า 700 หลักทรัพย์ทั่วโลก สามารถช่วยลดความผันผวนในการลงทุนได้ เหมาะสำหรับผู้ต้องการลงทุนในระยะยาวและรับความผันผวนได้ในระดับปานกลาง

ด้านกองทุน K-EUROPE จะลงทุนผ่านกองทุนหลัก Allianz Europe Equity Growth, Class AT-EUR บริหารจัดการโดย Allianz Global Investors โดยกองทุนหลักได้รับการจัดอันดับ Rating 5 ดาวจาก Morningstar มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีในภูมิภาคยุโรปที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง

ส่วนกองทุน K-CHINA จะลงทุนในกองทุนหลัก Fidelity Funds-China Focus Fund บริหารจัดการโดย Fidelity Worldwide Investment โดยกองทุนหลักได้รับการจัดอันดับ Rating 4 ดาวจาก Morningstar มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของจีนและฮ่องกง โดยมีการลงทุนที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีน จึงทำให้กองทุนสามารถเติบโตไปพร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้

สุดท้ายกองทุน K-ASIA จะลงทุนผ่านกองทุนหลัก Templeton Asian Smaller Companies บริหารจัดการโดย Franklin Templeton Investments โดยกองทุนหลักได้รับการจัดอันดับ Rating 5 ดาวจาก Morningstar มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงกว่าการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่

นายนาวิน กล่าวอีกว่า การที่บริษัทแนะนำให้เพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศซึ่งกดดันภาวะการลงทุนและได้สร้างความผันผวนให้แก่ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความกังวลต่อความไม่แน่นอนในสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อตลาดหุ้นไทยอย่างน้อยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ รวมไปถึงอาจส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ที่มองว่าอาจขยายตัวได้ไม่ถึงตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในต่างประเทศมองว่ามีความน่าสนใจกว่าการลงทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เป็นต้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้จะเติบโตได้ 2.8-3.2% (จากปีที่ผ่านมาเติบโต 2.2-2.3%) ขณะที่ตัวเลขการว่างงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Fed ตัดสินใจปรับลดวงเงินจากมาตรการ QE ลงจาก 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนมาอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หรืออาจมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงมาจนสิ้นสุดได้ในปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนที่เริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น