xs
xsm
sm
md
lg

คาดหุ้นไทยยังผันผวนต่อเนื่อง กสิกรไทยแนะลงบอนด์สั้นให้ยิลด์ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทยประเมินตลาดหุ้นไทยยังผันผวนต่อเนื่องหลังความขัดแย้งทางการเมืองยังยืดเยื้อ ล่าสุดส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ แนะผู้ลงทุนพักเงิน 6-12 เดือน ล็อกโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 3.20% ต่อปี

    นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า  จากการประชุมของ กนง.เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมายังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.25% สวนทางกับการคาดการณ์ของตลาดซึ่งมองว่าปัจจัยกดดันทางการเมืองและปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจมีผลทำให้คณะกรรมการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยมองว่าหากการเมืองยังคงมีความยืดเยื้อ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนในปีนี้ ก็อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมของ กนง.ครั้งต่อไป
    
“จากมติการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน หรือ กนง.ในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติ 4 ต่อ 3 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% สวนทางกับตลาดซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดลง 0.25% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2557 ลดลงจากเดิม 4% เป็น 3% อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศที่ยังคงยืดเยื้อและไม่มีทางออก รวมถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 60 วันของรัฐบาล ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสภาวะการลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยทำให้เกิดความผันผวนต่อเนื่องได้”
    
อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยมองว่าผู้ลงทุนควรต้องติดตามสถานการณ์การเมืองต่อไปอย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเมินว่า กนง.อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมครั้งต่อไปในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ โดยในระหว่างนี้ บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดระยะเวลาชัดเจน ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไปเพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนเอาไว้ก่อน และเป็นการพักเงินเพื่อรอดูความชัดเจนด้านเศรษฐกิจต่อไป
    
โดยในระหว่างนี้สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ ซึ่งมีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน-1 ปี  เพื่อล็อกโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนในระยะสั้น โดย บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ไอ (KEFF6MI) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.05% ต่อปี เสนอขายในวันที่ 23-29 มกราคม 2557 และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บี (KEFF1YB) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% ต่อปี เสนอขายในวันที่ 24-29 มกราคม 2557 โดยทั้งสองกองทุนดังกล่าวผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท เพื่อเสนอเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น โดยต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
    
สำหรับตราสารที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ไอ (KEFF6MI) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้น ประกอบด้วยเงินฝากของ China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง และเงินฝากของ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A และ BBB ตามลำดับ นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ระดับ BBB และ BBB- ตามลำดับ รวมทั้งยังลงทุนในตั๋วแลกเงิน บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A+
    

ด้านกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บี (KEFF1YB) ในเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝากของ China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง และเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า ซึ่งทั้งคู่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ Akbank T.A.S. และตราสารหนี้ Garanti Bank, ประเทศตุรกี รวมทั้งยังลงทุนใน Commercial paper ที่รับประกันโดย Sberbank, ประเทศรัสเซีย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ระดับ BBB, BBB- และ BBB ตามลำดับ โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
    
นอกจากนี้ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศ  ในวันที่ 23-29 มกราคม 2557 บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีเอ็กซ์ (KFI3MDX) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.95% ต่อปี โดยสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

 ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในเงินฝากของ Bank of China, สาขามาเก๊า และเงินฝากของ Garanti Bank, ประเทศตุรกี เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังลงทุนในตราสารหนี้ประเทศไทยของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทยที่ระดับ A+, AA- และ AA- ตามลำดับ โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
กำลังโหลดความคิดเห็น