บลจ.กสิกรไทยปลื้ม กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 60 เดือน เอ (KFI60MA) ยอดจองล้น ปิดขายเพียง 2 วัน พร้อมเปิดขาย 2 กองใหม่ต่อเนื่อง ชูผลตอบแทน 2.75- 3.00%
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทยได้มีการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยล่าสุดที่ได้เสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 60 เดือน เอ (KFI60MA) ซึ่งมีอายุโครงการประมาณ 5 ปี สามารถปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนภายใน 2 วันแรกก่อนกำหนดระยะเวลาที่ได้เสนอขายตั้งแต่วันที่ 21-28 ตุลาคม 2556 เนื่องจากมีผู้ลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินจำนวน ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท
สำหรับในสัปดาห์นี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องอีก 2 กอง ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีไอ (KFI3MDI) ประมาณการอัตราผลตอบแทน 2.75% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอ็น (KFF6MAN) ประมาณการอัตราผลตอบแทน 3.00% ต่อปี ในวันที่ 22-28 สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน โดยกองทุนดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้กระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มเติมจากตราสารหนี้ในประเทศฮ่องกง ซึ่งในสัปดาห์นี้ บลจ.กสิกรไทยคัดเลือกมาช่วยสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยทรงตัว
นางสาวยุพาวดี กล่าวต่อไปว่า ตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีไอ (KFI3MDI) จะเข้าลงทุนในเบื้องต้น ประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch Ratings ที่ A, A+ และ BBB+ ตามลำดับ รวมถึงตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA- และ A+ ตามลำดับ และยังลงทุนเพิ่มเติมในเงินฝาก Standard Chartered Bank, สาขาฮ่องกง (AA-/S&P) อีกด้วย
ด้านตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอ็น (KFF6MAN) จะเข้าลงทุนในเบื้องต้น ประกอบด้วย เงินฝาก Standard Chartered Bank, สาขาฮ่องกง (AA-/S&P) ตราสารหนี้ Bank of East Asia Ltd., สาขาฮ่องกง (A/S&P) ร่วมด้วยเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากลจาก Fitch ที่ระดับ A, A+, BBB- และ A ตามลำดับ นอกจากนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (A+(tha)/Fitch) โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีดี (KPPTF3MDD) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตร
รัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.50% ต่อปี