xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ แนะพักเงินบอนด์ ตปท. เปิดขาย 2 กองยิลด์ 3%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยเปิดขาย 2 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศระหว่างวันที่ 15-21 ตุลาคมนี้ ชูผลตอบแทนลงทุน 6 เดือน 3.0% ส่วน 1 ปีให้ผลตอบแทน 3.20% มั่นใจยิลด์ดีกว่ากองประเภทเดียวกันที่เสนอขายสัปดาห์ก่อน ระบุสินทรัพย์เสี่ยงยังผันผวน แนะชะลอลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย)  เปิดเผยว่า ในวันที่ 15-21 ตุลาคม 2556 บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ  6 เดือน เอเอ็ม (KFF6MAM) ให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ซีดี (KFF1YCD) ให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% ซึ่งทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวให้โอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้นกว่ากองทุนประเภทเดียวกันที่เสนอขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ พร้อมทั้งต้องการพักเงินเพื่อรอดูความชัดเจนด้านทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะเข้าลงทุนต่อไป 

“จากกรณีความไม่แน่นอนในการชะลอมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับปัจจัยความเสี่ยงเรื่องปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ หากรัฐบาลยังไม่ได้ข้อสรุปด้านการปรับเพิ่มเพดานหนี้ออกมาอย่างชัดเจนอาจส่งผลต่อภาวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ เช่น หุ้น ทองคำ สำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในสินทรัพย์ดังกล่าว หรืออาจรอดูสถานการณ์ไปก่อน ในโอกาสนี้สามารถเลือกพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ ซึ่งมีความเสี่ยงไม่สูงมากนักและให้โอกาสรับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ” นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ  6 เดือน เอเอ็ม (KFF6MAM) จะลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (A+/Fitch) เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ร่วมด้วยตราสารหนี้ Banco Santander S.A., ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB, BBB- และ A ตามลำดับ พร้อมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทยที่ระดับ A+ ด้านกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ซีดี (KFF1YCD) จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า ตราสารหนี้ Banco Santander S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังลงทุนเพิ่มในตราสารหนี้ Banco do Brasil S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB

นอกจากกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุ 6 เดือน และ 1 ปีข้างต้นแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีเอช (KFI3MDH) ให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.75% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น โดยกองทุน KFI3MDH จะเข้าลงทุนในเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า เงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล, ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ A, A+ และ BBB+ ตามลำดับ ร่วมด้วยตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย และตราสารหนี้ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทยที่ระดับ AA- และ A+ ตามลำดับ โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ดีซี (KPPTF3MDC) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.50% ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น